คพ. ตรวจเข้ม 7 ข้อด้านสิ่งแวดล้อมกิจการยางพารา

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – อธิบดีกรมควบคุมมลพิษระบุ จะตรวจเข้มผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากกิจการยางพารา โดยต้องแก้ปัญหา 7 ข้อเพื่อไม่ให้ก่อปัญหาน้ำเสีย-กลิ่นเหม็นซึ่งสร้างความเดือดร้อนต่อชุมชน


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ได้ทบทวนแนวทางการติดตามตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่กิจการยางพาราก่อความเดือดร้อนต่อชุมชน โดยที่ผ่านมามีประชาชนได้รับผลกระทบร้องเรียนเข้ามามากว่า ได้รับผลกระทบจากกิจการยางพาราเช่น การทำยางแผ่นจากน้ำยางธรรมชาติ การตัดแผ่นยาง ทำยางแผ่นรมควัน การแปรรูปยางพารา ผลิตภัณฑ์ยางจากยางธรรมชาติหรือยางสังเคราะห์ ที่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำเสียและปัญหากลิ่นเหม็น ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทุกภูมิภาค อีกทั้งปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นซ้ำซาก หากไม่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง

จากนี้ไป คพ. จะตรวจเข้มตามข้อกำหนดเงื่อนไข 7 ข้อ ที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานยางพาราต้องปฏิบัติให้ครบถ้วน ประกอบด้วย


1. ต้องมีและใช้ระบบบำบัดน้ำเสียที่มีขนาดและประสิทธิภาพเพียงพอที่จะปรับคุณภาพน้ำทิ้งทั้งหมดของโรงงานให้มีลักษณะเป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2539) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535

2. ห้ามระบายน้ำทิ้งออกนอกบริเวณโรงงาน

3. ต้องมีระบบป้องกันและกักเก็บน้ำฝนที่ตกในพื้นที่โรงงานทั้งหมด มิให้รั่วไหลออกจากพื้นที่โรงงานที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อแหล่งน้ำสาธารณะ


4. ต้องมีและใช้ระบบขจัดกลิ่นที่เกิดจากการผลิตให้มีขนาดและประสิทธิภาพเพียงพอ และต้องใช้งานตลอดเวลาทำงาน โดยจะต้องมีมาตรการและวิธีการควบคุมอากาศเสียจากระบบบำบัดมิให้กลิ่นแพร่กระจายสู่ชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง โดยระดับความเข้มข้นของสารเกิดกลิ่นตามที่กำหนด

5. ห้ามกองวัตถุดิบขี้ยางและสารเกิดกลิ่นทุกชนิดนอกอาคาร โดยจะต้องจัดเก็บไว้ภายในอาคารที่ปิดมิดชิด ไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายของกลิ่นจนเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญต่อชุมชนที่อยู่อาศัยใกล้เคียง และหากมีการระบายอากาศออกจากอาคาร จะต้องมีวิธีและมาตรการควบคุมกลิ่น ให้มีความเข้มข้นที่ระดับพื้นดิน ให้เป็นไปตามข้อ 4

6. ต้องมีมาตรการควบคุมกลิ่นจากกองขี้ยางที่อยู่บนรถบรรทุกขณะจอดรถรอภายในบริเวณโรงงานมิให้ส่งกลิ่นเหม็นแพร่กระจายก่อเหตุเดือดร้อนต่อชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงโรงงาน

7. การกำจัดสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว ต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิงปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2548

นายอรรถพลย้ำว่า การประกอบการทุกชนิดจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือพบเห็นการก่อมลพิษ โทรแจ้งได้ที่สายด่วน คพ. 1650 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ถังแก๊สระเบิด

ถังแก๊สระเบิดในโรงงานเหล็ก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เจ็บหลายราย

ถังแก๊สระเบิดในโรงงานเหล็กแห่งหนึ่ง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมเพลิงไหม้ เบื้องต้นมีรายงานผู้บาดเจ็บหลายราย และมีผู้ติดค้างอยู่ในโรงงานจำนวนมาก ล่าสุดคุมเพลิงและช่วยผู้ติดค้างภายในออกมาแล้ว

ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ “หมู่อาร์ม” ถูกรถขนต่างด้าวชนดับ

สุดสะเทือนใจ นำร่าง “หมู่อาร์ม” ผบ.หมู่ สภ.เมืองกำแพงเพชร ถูกรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวแหกด่านพุ่งชนเสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศล ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปูนบำเหน็จ 5 ชั้นยศ

“อัจฉริยะ” ยื่นรื้อคดี “แตงโม” เชื่อโดนฆาตกรรม

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือถึงอธิบดีอัยการภาค 1 ขอให้รื้อคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม ภัทรธิดา” เผยผลชันสูตรไม่ตรงกับข้อมูลที่ตำรวจแถลงข่าว

ข่าวแนะนำ

ช้างป่าทับลาน

ไล่กันทั้งคืน! ช้างป่าทับลานยกโขลงหลายสิบตัวบุกพื้นที่เกษตร

ทีมเครือข่ายอาสา ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทับลาน ขับรถฝ่าความหนาวกระจายกำลังไล่ต้อนช้างป่าหลายสิบตัวบุกหากินพืชผลทางการเกษตร ให้ออกห่างจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.จระเข้หิน จ.นครราชสีมา

น้ำท่วมสุราษฎร์

น้ำท่วมสุราษฎร์ฯ ยังกระทบ หยุดเรียนต่ออีก 2 วัน

สุราษฎร์ธานี ระดับน้ำท่วมขังยังส่งผลกระทบ บางจุดสูง 80-100 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะที่โรงเรียนแจ้งหยุดต่ออีก 2 วัน

เสือดาวแก่งกระจาน

ตื่นตา! เสือดาวโผล่โชว์ตัวกลางถนนแก่งกระจาน

ประทับใจ! เสือดาวโผล่โชว์ตัวกลางถนนแก่งกระจาน ไม่มีอาการกลัวคน นั่งนิ่งคล้ายกับโพสท่าให้นักท่องเที่ยวบันทึกภาพเก็บภาพความประทับใจ และสะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแก่งกระจาน

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ลมแรง

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง โดยภาคอีสานและภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า กทม.-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ