GC ศึกษาแผนออกหุ้นกู้ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ มี.ค.นี้

กรุงเทพฯ 17 ก.พ.-บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ  GC ศึกษาแผนออกหุ้นกู้ 1.7 หมื่นล้านดออลาร์ สรอ.ภายใน มี.ค.นี้ ล็อกดอกเบี้ยบางส่วนลดภาระแนวโน้มดอกเบี้ยโลกขยับขึ้น ยอมรับรายได้ปีนี้อาจไม่โตเหมือนปี 64  เหตุน้ำมันแพง มาร์จิ้นบางรายการอาจลดลง แต่ผลดีจากปรับโครงสร้าง เพิ่มมูลค่าธุรกิจทำให้รายได้ยังโต ปีนี้รับรู้รายได้ allnex 2,000 ล้านยูโร  


นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  GC  เปิดเผยว่าบริษัท ศึกษาแผนเตรียมจะออกหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ฯ วงเงิน 1,700 ล้านดอลลาร์ ภายในเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นหุ้นกู้ระยาว ประมาณ 10-30 ปี เพื่อลดต้นทุนทางการเงิน และจะมีการล็อกดอกเบี้ยเพื่อลดผลกระทบจากแนวโน้มดอกเบี้ยโลกที่จะขยับขึ้น หลังตจากที่มีการวิเคราะห์กันว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED ) จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้ดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันเป็นเงินสกุลบาทไปแล้ว 30,000 ล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ เพื่อชำระคืนเงินกู้ และ/หรือ หุ้นกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่ครบกำหนดในเดือนกันยายน 2565 และ/หรือชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนดและ/หรือ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจทั่วไปไปแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นจังหวะที่ดี ได้อัตราดอกเบี้ยต่ำ

ขณะเดียวกัน บริษัท ยังมองหาโอกาสการควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการ(M&A) เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ โดยจะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่มีการปลดปล่อยคาร์บอนต่ำ ซึ่งน่าจะเห็นความคืบหน้าในเข้าซื้อกิจการออกมาต่อเนื่อง แต่คงยังไม่ใช่ธุรกิจที่มีขนาดใหญ่เท่ากับการเข้าซื้อกิจการก่อนหน้านี้ของ allnex  ผู้นำระดับโลกในธุรกิจผลิตภัณฑ์สารเคลือบผิว (Coating Resins) และสารเติมแต่งสำหรับงานอุตสาหกรรม ที่มีความหลากหลายสำหรับใช้กับวัสดุทุกประเภท  ที่เกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้ ทำให้ GC ก้าวเข้าสู่ธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง HVB (High Value Business)   และผลดี คือเป็นธุรกิจที่มีรายได้มั่นคง แนนวัตกรรม คาดว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านยูโร หรือ 74,167.2 ล้านบาท (ที่อัตราแลกเปลี่ยน 37.08 บาท ต่อ 1 ยูโร) และการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท วีนิไทย จากัด (มหาชน) หรือ VNT ซึ่งจะเข้ามาเสริมผลการดำเนินงานของบริษัท และกำลังการผลิตของบริษัทให้มีการเติบโตระยะยาว


แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2565 แม้ว่าบริษัทจะมีแผนปิดซ่อมบำรุงทั้งในส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน และโรงงานโอเลฟินส์ รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่ส่งผลกระทบต่อมาร์จิ้นสินค้าบางประเภท ประกอบกับปีนี้มีซัพพลายด์ใหม่จากโรงงานในต่างประเทศ และเศรษฐกิจโลกอาจะได้รับผลกระทบจากน้ำมัน รวมทั้งผลบวกการจากการฟื้นตัวของโควิด-19 เริ่มชะลอตัวลง ก็จะส่งผลให้ รายได้ของบริษัทอาจไม่เติบโตเท่ากับปี 2564 แต่จากการที่บริษัทปรับโครงสร้างการทำธุรกิจมีรายได้จาก อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มถึงครึ่งหนึ่ง เช่น จาก allnex  โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต Olefins Reconfiguration Project (ORP) โครงการโพรพิลีนออกไซด์ (Propylene Oxide :PO) เป็นต้น จึงทำให้รายได้ยังคงขยายตัว

“ผลการดำเนินงานปีนี้ หากดูจากราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ส่งผลให้มาร์จินโรงกลั่นไปได้ดี ส่วนปิโตรเคมีทรงตัว จากกำลังผลิตใหม่ที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งราคาเม็ดพลาสติกดีขึ้น แต่ พาราไซลีน (Paraxylene)และสายเบนซีน (Benzene) ลดลง แต่จากที่บริษัทปรับโครงสร้างไปสู่สินค้ามูลค่าเพิ่มที่มีในพอร์ตรายได้ราวครึ่งหนึ่งก็ยังคงทำให้รายได้ปีนี้เติบโต”นาย คงกระพัน กล่าว

สำหรับความคืบหน้าโครงการปิโตรเคมี คอมเพล็กซ์ที่รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา นั้น บริษัทมองว่า เป็นโครงการที่ดี และน่าลงทุน แต่เนื่องจากเป็นโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนสูง ดังนั้น จำเป็นต้องมีพันธมิตรร่วมลงทุน และบริษัทอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรที่เหมาะสม ซึ่งยังไม่มีเป้าหมายว่าจะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย(FID) เมื่อไหร่ เพราะยังต้องพิจารณาหลายปัจจัยให้รอบคอบ


ส่วนความคืบหน้าโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ ระยะที่ 2 มูลค่า 1,400 ล้านบาท หลังจากที่บริษัท NatureWorks LLC (“NatureWorks”) ตัดสินใจลงทุนโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด(PLA) นั้น ขณะนี้เป็นไปตามแผน โดยเริ่มเข้าสู่กระบวนการออกแบบโรงงาน

นอกจากนี้ ในปี 2565 พร้อมปรับเปลี่ยนองค์กร ให้ตอบโจทย์ธุรกิจเพื่ออนาคต สอดคล้อง 5 เมกะเทรนด์โลก ประกอบด้วย Climate Change & Energy Transition, Demographic Shift, Health & Wellness, Urbanization และ Disruptive Technology ที่มีผลต่อการเติบโต การดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ การแข่งขันทางการค้า การปรับเปลี่ยนทิศทางของภาคอุตสาหกรรมสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ   โดยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจเคมีภัณฑ์ครบวงจรที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้คน  และเดินหน้าธุรกิจแห่งอนาคตด้วยกลยุทธ์ 3 Steps ได้แก่ 

1. Step Change ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน สานต่อสร้างเสริม GC ให้เข้มแข็งเช่น  โครงการผลิตพลาสติกวิศวกรรมชั้นสูง  ของบริษัท Kuraray GC Advanced Material (KGC) กำลังก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อผลิต High Heat Resistant Polyamide-9T (PA-9T) จำนวน 13,000 ตันต่อปี และ Hydrogenated Styrenic Block Copolymer (HSBC) จำนวน 16,000 ตันต่อปี นับเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อรองรับเมกะเทรนด์โลก  โครงการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกโพลิโพรพิลีน (PP) ของบริษัท HMC Polymers และการปรับโครงสร้างธุรกิจ PVC ภายหลัง VNT ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อขยายตลาด PVC ไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA)

2. Step Out  กลยุทธ์การแสวงหาโอกาสต่อเนื่อง หลังจากประสบความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการ allnexเพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจใหม่หรือในต่างประเทศ เป้าหมายเพื่อมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจในต่างประเทศ สนองตอบความต้องการของผู้บริโภคภายใต้เมกะเทรนด์โลก

3. Step Up กลยุทธ์สร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ : ด้วยการเป็นต้นแบบองค์กรเพื่อความยั่งยืนในระดับสากล)ตามแผน ยกระดับคุณภาพชีวิต มุ่งสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ (Together to Net Zero) เพื่อบรรลุเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลง 20% ภายในปี 2573 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2593 โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางธุรกิจ

นอกจากนี้ GC ยังได้ Transform องค์กรในหลายๆ ด้าน เพื่อสนับสนุนทิศทางองค์กรและแผนกลยุทธ์ในระยะยาว ได้แก่ Digital Transformation, Market Focused Business Transformation, Lean Process and Organization Transformation รวมทั้งปรับองค์กรเพื่อการดำเนินงานด้าน Decarbonization. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย