เร่งตรวจสอบดีเอ็นเอและวัตถุพยานคดีฆ่าเสือโคร่ง 2 ตัว

กรุงเทพฯ 16 ก.พ.-ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ ตรวจสอบดีเอ็นดีและวัตถุพยานในที่เกิดเหตุฆ่าเสือโคร่ง 2 ตัวอย่างละเอียด แต่ยังไม่พบกระสุนปืนที่ยิง พบเพียงร่องรอยที่หนังเสือ เตรียมประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจเขม่าดินปืน ด้านหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิเข้าแจ้งความตำรวจสอบสวนเพิ่ม บ่วงแร้วที่พบเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาล่าเสือทั้ง 5 คนหรือไม่

ดร.กณิตา อุ่ยถาวร ผู้อำนวยการศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า เร่งตรวจสอบเทียบวัตถุพยานที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บมาจากที่เกิดเหตุซึ่งมีถึง 20 ตัวอย่างเช่น คราบเลือดตามจุดต่างๆ มีด ชิ้นเนื้อ ขณะที่ผลตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่า เสือโคร่งทั้ง 2 ตัวเป็นเพศและเป็นแม่-ลูกกัน โดยยังไม่พบกระสุนที่ยิง แต่พบเพียงรอยรูกระสุนที่หนังเสือ ล่าสุดเตรียมประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจเขม่าดินปืนที่หนังเสือซึ่งจะชี้ชัดระยะยิงได้


ทั้งนี้การตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์มีความสำคัญต่อรูปคดีเพราะผู้ต้องหาอาจให้ปากคำแบบใดก็ได้ แต่นิติวิทยาศาสตร์จะสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เกิดขึ้น จากนั้นจะไปจำลองเหตุการณ์ โดยขั้นตอนการตรวจสอบทั้งหมดจะใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพราะต้องแม่นยำ แล้วนำประกอบสำนวนคดีให้แน่นหนามัดตัวผู้กระทำผิดได้

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า มอบหมายให้นายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิเข้ามาแจ้งความกล่าวโทษผู้ขุดหลุมวางแร้วดักเสือโคร่งและสัตว์ป่าอื่นๆ ที่ สภ.ปิล็อก จ.กาญจนบุรีซึ่งตรวจพบบริเวณป่าห้วยปิล็อกรวม 10 หลุม ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา19(2) ประกอบมาตรา 42 ในข้อหากระทำการใดๆ โดยการขุดหลุมวางแร้ว ทำให้เป็นอันตราย หรือให้เสื่อมสภาพซึ่งดิน หรือทรัพยากรธรรมชาติ ระวางโทษ จำคุก ไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำและปรับซึ่งหากจับได้จะดำเนินคดีถึงที่สุดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม


ทั้งนี้ขณะตรวจสอบหลุมวางแร้วดักสัตว์ป่าทั้ง 10 หลุม ไม่พบผู้ใดอยู่ในบริเวณที่เกิดเหตุ แต่จุดที่พบอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณที่นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์กับพวกรวม 5 คนยิงเสือโคร่ง 2 ตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนสภ.ปิล็อกจะสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาทั้ง 5 คนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นในการขุดหลุมวางแร้วดักจับเสือโคร่งหรือสัตว์ป่าหรือไม่เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่