กรุงเทพฯ 10 ก.พ. – ปตท.สผ. ระบุกลางเดือน มี.ค.นี้ คงจะชัดเจนว่า ปตท.สผ. จะเข้าไปถือหุ้นแทนโททาล ที่ถอนตัวจากแหล่งยาดานา ประเทศเมียนมา หรือไม่ ย้ำปีนี้ยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 4.67 แสนบาร์เรลต่อวัน
นางสาวอรชร อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP กล่าวถึงกรณีบริษัท โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ อีพี เมียนมา ขอถอนตัวจากการเป็นผู้ร่วมทุนและผู้ดำเนินการ (Operator) ในโครงการปิโตรเลียม “ยาดานา” และในบริษัท Moattama Gas Transportation Company (MGTC) ซึ่งดำเนินธุรกิจท่อส่งก๊าซจากโครงการฯ ในประเทศเมียนมา และมีกระแสข่าวว่าบริษัทเชฟรอนฯ จะถอนตัวเช่นกันนั้น ในขณะนี้ ยังไม่ได้รับหนังสือถอนตัวอย่างเป็นทางการจากทางเชฟรอนฯ แต่อย่างใด และแม้ว่าโททาลฯ จะส่งหนังสือถอนตัวแล้วเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่โททาลฯ ยังคงเป็นผู้ดำเนินการในโครงการต่อไปอีก 6 เดือน เพื่อรักษาความต่อเนื่องในการผลิตก๊าซธรรมชาติของโครงการยาดานา ที่มีปริมาณการผลิตก๊าซในปี 2564 อยู่ที่ประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่วนใหญ่ส่งมาจำหน่ายในไทย
ทั้งนี้ ปัจจุบันทางผู้บริหาร ปตท.สผ. อยู่ระหว่างพิจารณาแผนการดำเนินงานในแหล่งยาดานา ภายหลังจากโททาลฯ ถอนตัวออกไป คาดว่าจะมีความชัดเจนแผนดำเนินงานภายในต้นเดือน หรือไม่เกินกลางเดือน มี.ค.นี้
ผู้ถือหุ้นโครงการยาดานา ประกอบด้วย บริษัท ยูโนแคลเมียนมา ออฟชอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเชฟรอนฯ ถือหุ้นสัดส่วน 28.26%, บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทย่อยของ ปตท.สผ. ถือหุ้นสัดส่วน 25.5% และบริษัท เมียนมา ออยล์ แอนด์ แก๊ซ เอ็นเตอร์ไพรส์ (MOGE) ถือหุ้นสัดส่วน 15% ขณะที่โททาลฯ ถือหุ้น 31.23%
สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2565 ปตท.สผ. คาดว่าปริมาณการขายยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมาจากกำลังการผลิตจากแหล่งใหม่ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวสูง ส่งผลให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ในปีนี้จะสูงขึ้นด้วย ตั้งเป้าปริมาณการขายไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 4.36 แสนบาร์เรลต่อวัน และคาดทั้งปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 4.67 แสนบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ 4.16 แสนบาร์เรลต่อวัน
ขณะที่ราคาขายก๊าซฯ ในช่วงไตรมาส 1/2565 คาดว่าจะอยู่ที่ 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู และทั้งปีคาดอยู่ที่ 5.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ส่วนต้นทุนต่อหน่วย อยู่ที่ 27-28 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ EBITDA อยู่ที่ 70-75%
สำหรับภาพรวมตลาดน้ำมันและก๊าซฯ ในตลาดโลกปี 2565 คาดว่าราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้ 71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือวิ่งในกรอบ 65-85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาก๊าซฯ เฉลี่ย 16 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู หรือวิ่งในกรอบ 10-30 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู และเพื่อป้องกันความผันผวนบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันและปรับแผนให้มีความเหมาะสม ซึ่งในปี 2564 ได้ทำไปแล้ว 15 ล้านบาร์เรล.-สำนักข่าวไทย