รมว.คลัง โชว์วิสัยทัศน์ปี 2030 มุ่งดูแลสวัสดิการสังคม

กรุงเทพฯ 9 ก.พ.- รมว.คลัง โชว์วิสัยทัศน์ปี 2030 มุ่งดูแลสวัสดิการสังคม ส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า ลดทำลายสิ่งแวดล้อม สภาพัฒน์แนะนโยบายเศรษฐกิจยืดหยุ่น ฟื้นตัวเร็วจากวิกฤติ ขณะที่ธปท. เตรียมออกโครงสร้างพื้นฐานการเงินใหม่ปลายปี ให้บริการสกุลเงินดิจิทัลภาคประชาชน 


นายอาคม  เติมพิทยาไพสิฐ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานสัมมนา Post Today Forum 2022 หัวข้อ “Thailand Vision 2030” ว่า รัฐบาลต้องบริหารนโยบายการคลัง รองรับวิสัยทัศน์ในระยะยาว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงต้องหันมาพึ่งพา เศรษฐกิจสมัยใหม่ พลังงานสะอาด พลังงานแสงอาทิตย์ ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า  มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เพื่อปูพื้นฐานทางเศรษฐกิจยุคใหม่  รองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ สังคมออนไลน์ ทุกส่วนราชการจึงต้องหันมาใช้เทคโนโลยีบริการประชาชน ภาคธุรกิจให้ทันสังคม   

รัฐบาลยังต้องส่งเสริมช่องทางการระดมทุนของประชาชน ร้านค้ารายย่อย เอสเอ็มอี ผ่านแนวทาง กู้โดยตรงในลักษณะ  Peer-to-Peer Lending (P2P) เพื่อเชื่อมโยงเงินระหว่างผู้มีเงินออม กับผู้ต้องการขอสินเชื่อ  โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง หรือส่งเสริมการใช้ระบบ cloud Funding  ซึ่งมีภาคเอกชนหลายหน่วยงานเริ่มหันปล่อยกู้ให้กับเครือข่ายสมาชิก ผู้ผลิตสินค้าให้ รวมถึงการร่วมลงทุนผ่านกองทุนร่วมลงทุน VC (Venture Capital)  เพื่อไปลงทุนกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ  นับเป็นแนวทางระดมทุนในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล 


รัฐบาลยังต้องดูแลสวัสดิการฯให้กับทุกกลุ่ม เพื่อความยั่งยืนในระยะยาว เห็นได้จากปัญหาโควิด-19 ระบบประกันสังคม มาตรา 39,40 ได้ช่วยเหลือแรงงานอิสระได้อย่างมาก รวมไปถึงการดูแลผ่านกองทุนประกันสุขภาพ กองทุนบัตรสวัสดิการฯ นับว่าช่วยบรรเทาภาระให้กับประชาชนได้อย่างมาก จึงต้องส่งเสริมให้ประชาชน สะสมเงินออม ทั้งภาคบังคับ ภาคสมัครใจ ผ่านประกันสุขภาพ ประกันชีวิต กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุน กอช. และกองทุนประเภทต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ  เมื่อต้องใช้เงินจำนวนมาก แก้ปัญหาโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ต้องออก พ.ร.ก.เงินกู้ 1.5 ล้านล้านบาท  และยังต้องเดินหน้าแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำ จึงต้องวางนโยบายการคลังในอนาคต เพื่อหารายได้เข้าชดเชยเงินกู้ในช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่า เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย คาดหวังว่าจีดีพีร้อยละ 3.5-4.5 ในปี 65 

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ไทยยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน เช่น หนี้ภาคครัวเรือนเป็นอีกระเบิดเวลาก้อนหนึ่ง ซึ่งต้องเร่งเข้าไปแก้ไขดูแล ด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ เจรจาหนี้ เพื่อให้รายย่อยไม่ต้องถูกยึดบ้าน  ประกอบอาชีพต่อไปได้ เพราะปัญหาโควิด-19 กระทบรายย่อยอย่างมาก จึงต้องเร่งแก้ไขไม่ให้ส่งผลในระยะยาว  ปัญหาสงครามทางการค้าระหว่างประเทศ การกีดกันทางการค้ารุนแรงมากขึ้น จึงเป็นปัจจัยเสี่ยงฉุดรั้งการขยายตัวเศรษฐกิจในอนาคต จึงต้องปรับการพึ่งพาเศรษฐกิจจากการดึงเงินลงทุนต่างชาติและผลิตเพื่อการส่งออก หันมาพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ และพึ่งพาอุตสาหกรรมแห่งอนาคต 

ในส่วนของ คริบโตเคอเรนซี่ นับว่ามีแรงกับสังคมยุคใหม่ หากประเทศมหาอำนาจมีปัญหาเศรษฐกิจ นับเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาคการเงิน ย่อมกระทบต่อประเทศด้วยพัฒนา ตามไปด้วย จึงต้องหันมาใช้นโดยบาย D-Risk เพื่อลดความเสี่ยงโดยไม่พึ่งพาด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป ประคองให้เศรษฐกิจเดินไปอย่างยืดหย่น แม้มีปัญหาสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วภายใต้เศรษฐกิจยุคใหม่ แต่ยังต้องบริการประชาชนผ่านออนไลน์มกขึ้น หลังจากคุ้นเคยกับการแสกนซื้อค้า ผ่านระบบคนละครึ่ง การฝากเงินผ่านพร้อมเพย์ รูดเงินซื้อสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการฯ จึงต้องนำมาส่งเสริมมากขึ้น 


นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท. เตรียมออกโครงสร้างพื้นฐานการเงินยุคใหม่ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 65 นี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอชน ประชาชนออกนวัตกรรมทางการเงิน  สกุลเงินดิจิทัลสำหรับประชาชน  Retail CDCB (retail central bank digital) ออกโดย ธปท. เพื่อยกระดับการชำระเงินของประชาชน การวางโครงสร้างพื้นฐานแล้วเปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนานวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆ เพื่อสร้างประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการอย่างปลอดภัย ยอมรับว่าคนไทยใช้ระบบพร้อมเพย์ บริการทางการเงินออไลน์มากเป็นอันดับต้นของโลก  

 “คริบโตเคอเรนซี เป็นกระแสของสังคมไทย แต่ต้องวัดให้ได้ว่าดีกว่าแก่นแท้เดิมในการใช้เงินแลกเปลี่ยน ธปท.ไม่ได้คัดค้าน อะไรดีกว่าเดิมพร้อมเปลี่ยนแปลง ในช่วง 2 ปีข้างหน้า นวัตกรรมทางการจะเปลี่ยนแปลงไปมาก ธปท. ยังเดินหน้าพัฒนา สมาร์ทไฟแนลเชียล ลดขั้นตอน ยุ่งยากซับซ้อนการใช้เอกสาร  เช่น การนำเข้า ส่งออกสินค้า ต้องใช้เอกสารจำนวนมาก เมื่อหันมาใช้ดิจิทัล จะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ  ธปท. ขอยึดหลักกำกับดูแลแบบยืดหยุ่นมากขึ้น หากมีความเสี่ยงจะคุมเข้ม  ความเสี่ยงน้อยจะผ่อนคลาย และหากยังคลุมเครือไม่ชัดเจน จะใช้แนวทางป้องกัน แต่ไม่ขัดขวาง” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]