ม็อบรถบรรทุกยกเลิกวันนี้ นัดพรุ่งนี้ 8 ก.พ.หน้า ก.พลังงาน

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.-ม็อบรถบรรทุกแจ้งยกเลิกกิจกรรมแสดงพลังและขับไล่ รมว.พลังงาน วันนี้ที่บางซื่อ นัดชุมนุมพรุ่งนี้ (8 ก.พ.) ที่กระทรวงพลังงาน ขณะที่ “สุพัฒนพงษ์” พร้อมรับฟังข้อเสนอรถบรรทุก ยืนยันไม่ท้อแม้ถูกรุมไล่ปมน้ำมันแพง


ความเคลื่อนไหวจากเพจเฟซบุ๊ก “คนรักสิบล้อ” โพสต์ข้อความว่าทัพสิบล้อพร้อม พบกัน 8 ก.พ.นี้ โดยระบุว่า สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้ทำการเรียกร้องราคาน้ำมันดีเซลที่ 25 บาทต่อลิตร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 64 มีการเจรจากันหลายรอบแล้วในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา จัดกิจกรรม truck power มาแล้ว 2 ครั้ง เพื่อเป็นการกดดันรัฐบาลและกระทรวงพลังงาน แต่ล่ะครั้งมีค่าใช้จ่ายกว่าล้านบาท และเป็นการเฉลี่ยออกกันเองโดยไม่มีนายทุนหรือนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ถึงปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จึงมีมติให้จัดกิจกรรมครั้งสุดท้ายในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นการขับไล่ รมว.พลังงาน เพื่อแสดงจุดยืนของสหพันธ์ฯ และแก้ข้อครหาต่างๆ ในสังคม

ทางสหพันธ์ฯ ได้ดำเนินการเรียกร้องต่อสู้อย่างเต็มที่แล้ว จากนี้ไปเป็นเรื่องของประชาชนทุกคนที่ต้องออกมาต่อสู้เรื่องนี้กันต่อไป จึงขอเชิญชวนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพง โดยภาครัฐไม่ได้เหลียวแลแก้ไข จนส่งผลกระทบให้สินค้าส่วนใหญ่ขึ้นราคา และส่งผลกระทบแก่ชีวิตประจำวันทั่วไป หากท่านใดมีความประสงค์จะร่วมรับฟังการชี้แจงเหตุผลในการต่อสู้ของกลุ่มรถบรรทุก ว่าทำไมเราจึงคิดว่ารัฐสามารถลดราคาได้แต่ทำไมจึงไม่ลด ขอเชิญรับฟังได้ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ กระทรวงพลังงาน


ล่าสุด! จากการหารือร่วมกันในหลายภาคส่วน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ได้ขอยกเลิกกิจกรรมเคลื่อนไหวเพื่อประชาสัมพันธ์ในวันนี้ (7 ก.พ.) เวลา 15.30 น. ที่บางซื่อ โดยขออภัยอย่างสูงในความไม่สะดวก มา ณ โอกาสนี้

อย่างไรก็ตามกิจกรรม Truck Power Final Season ที่บริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ ยังเป็นตามเดิม เริ่มเคลื่อนขบวนรถบรรทุก ตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยจะมีการรวมพลในเส้นทางหลัก 3 แห่ง ได้แก่

  1. ถนนเอเชีย เริ่มจาก ด่านบางปะอิน > นวนคร > ดอนเมือง > มุ่งหน้าไปกระทรวงพลังงาน
  2. ถนนบางนาตราด เริ่มจาก บางนาตราด กม.12 > มุ่งหน้าไปกระทรวงพลังงาน
  3. ถนนกาญนาภิเษก เริ่มจาก นครปฐม > ตลิ่งชัน > บางพลัด > วงศ์สว่าง > มุ่งหน้าไปกระทรวงพลังงาน

สำหรับข้อเรียกร้องของสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ราคาน้ำมันดีเซลต้องไม่เกิน 25 บาทต่อลิตร หากรัฐไม่ทำตามเรียกร้องจะปรับขึ้นราคา ค่าขนส่งอีก 20 %


ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เรื่องราคาน้ำมันมีคนเดือดร้อนจำนวนมาก ไม่ใช่เฉพาะรถบรรทุก ซึ่งรัฐบาลก็พยายามดูแลทุกกลุ่ม และเมื่อต้นทุนน้ำมันเป็นแบบนี้ รัฐบาลก็ใช้ทุกวิธีการดูแลไม่ให้ราคาสูงเกินไปจนทำให้เกิดความเดือดร้อนและต้องพิจารณาในเรื่องงบประมาณด้วย ขณะเดียวกันต้องดูกลไกราคาน้ำมันตลาดโลกด้วย ไม่ใช่เดือดร้อนเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เดือดร้อนทุกกลุ่มทั้งภาคการผลิต ภาคบริโภค ภาคขนส่งต้องช่วยกัน เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้อยู่และรัฐบาลก็ดำเนินในหลายมาตรการมาอย่างต่อเนื่อง ก็ขอให้ติดตามสถานการณ์ในหลายประเทศเทียบเคียงด้วย

ขณะที่นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกฯ ประกาศชุมนุมหน้ากระทรวงพลังงานเรียกร้องให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลและขับไล่ รมว.พลังงาน ออกจากตำแหน่งว่า ทุกครั้งที่มีการชุมนุมของกลุ่มต่างๆเราก็รับข้อเสนอและสามารถให้ข้อมูลได้มากที่สุด ขณะนี้กำลังดูมาตรการเดิมที่มีไปถึงวันที่ 31 มี.ค. และหากได้ข้อเรียกร้องต่างๆ มา ก็จะดูว่าสามารถนำไปปรับปรุงอย่างไรและทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนจะสามารถตรึงราคาน้ำมันดีเซล 25 บาทได้หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตรึงไว้ที่ 30 บาท ส่วน 25 บาท คงต้องมาดูกันว่าตัวเลขนี้มาได้อย่างไรและจะได้ประโยชน์อย่างไร

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น แต่ไม่ลดให้รถบรรทุกเป็นการเอื้อนายทุนหรือไม่นั้น มาตรการที่ว่าเป็นมาตรการชั่วคราว สิ่งที่สหพันธ์รถบรรทุกขอ ไม่ใช่มาตรการเฉพาะ วันนี้รัฐช่วยลิตรละ 5 บาทอยู่แล้ว เท่ากับภาษีสรรพสามิต ส่วนจะพิจารณาช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไปหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก ซึ่งต้องยอมรับว่าช่วงนี้ราคาน้ำมันขึ้นมาเร็วมาก เพียงเดือนเดียวขึ้นมา 5 บาทกว่า ถือเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน ซึ่งรัฐบาลก็ทำอย่างเต็มที่แล้วภายใต้กรอบและจำนวนเงินที่มีอยู่

กรณีที่มีการเรียกร้องขับไล่รัฐมนตรีนั้นไม่รู้สึกท้อใช่หรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ไม่ท้อ ถือเป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนก็มีความขุ่นเคืองในยามนี้ เพราะไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เป็นสถานการณ์ที่เรากำลังอยู่ในวิกฤติระดับโลก ทั้งเรื่องควบคุมโควิด เรื่องฉีดวัคซีน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ตนคิดว่าไม่ใช่เป็นเรื่องของการเมือง

สำหรับกรณีที่สหพันธ์ฯ จะขอขึ้นราคาค่าขนส่ง 20% หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจะทำให้วงจรค่าขนส่งเปลี่ยนไปหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า อยู่ที่สถานการณ์และข้อตกลงของการขนส่ง ระหว่างผู้ให้และผู้รับบริการ และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าจะขึ้นได้มากแค่ไหนตามกลไกตลาด ทั้งนี้รัฐบาลจะปล่อยให้ภาคเอกชนขึ้นราคาบริการขนส่งหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ถือเป็นกลไกตลาดเสรี จะไปบังคับทุกเรื่องไม่ได้ และต้องถามว่าผู้รับบริการจะยอมให้ขึ้นหรือไม่ และต้องพูดคุยกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]