กรมการค้าภายในยันราคาเนื้อหมูปรับลดลงจริง

กรุงเทพฯ 3 ก.พ. – อธิบดีกรมการค้าภายในยืนยันราคาเนื้อหมูตลาดสดทั่วประเทศปรับลดลงจริง จากช่วง 3 สัปดาห์ที่แล้วราคาเนื้อหมู 200-220 บาท/กก. แต่หลังตรุษจีนเหลือแค่ 170-180 บาท/กก. เหตุจากราคาหมูหน้าฟาร์มลดลงต่อเนื่องเหลือ 100 บาท/กก. ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นยังไม่มีผลกระทบต้นทุนมากนัก


นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ณ ตลาดเวิลด์มาร์เก็ต เขตทวีวัฒนา หลังเทศกาลตรุษจีน เพื่อตรวจสอบราคาสินค้าอุปโภคและบริโภค โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อไก่และไข่ ว่า จากที่ได้รับรายงานเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจกระทรวงพาณิชย์ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศราคาสินค้าสำคัญมีแนวโน้นปรับลดลงเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหมูเนื้อแดงอยู่ที่ 170-180 บาทต่อกิโลกรัม แยกเป็นสะโพกอยู่ที่ 175 บาทต่อกิโลกรัม ไหล่อยู่ที่ 160 บาทต่อกิโลกรัม สันในอยู่ที่ 190 บาทต่อกิโลกรัม สันนอกอยู่ที่ 185 บาทต่อกิโลกรัม สามชั้นอยู่ที่ 200 บาทต่อกิโลกรัม

อย่างไรก็ตาม ราคาเนื้อหมูที่เริ่มปรับลดลงดังกล่าวสืบเนื่องจากความร่วมมือของภาครัฐที่ร่วมกันตรวจสตอกปริมาณหมูทั่วประเทศ ทำให้ทราบปริมาณเนื้อหมูในระบบเหลือจริงมากน้อยแค่ไหน ประกอบกับสตอกหมูที่เก็บอยู่กลับเข้าสู่ตลาดอย่างเพียงพอ ทำให้ขณะนี้ราคาเนื้อหมูหน้าฟาร์มปรับลงเหลือต่ำกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม และคาดว่าราคาเนื้อหมูจะปรับลดลงตามต้นทุนที่แท้จริงเร็ว ๆ นี้ และยังได้รับรายงานไม่เพียงแต่เนื้อหมูในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ลดลงเท่านั้น โดยราคาเนื้อหมูในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศเฉลี่ยเริ่มลดลงมาอยู่ที่ 200 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งก่อนช่วงตรุษจีนราคาเนื้อหมูสูงถึง 250-300 บาทต่อกิโลกรัม


นอกจากนี้ ราคาไก่สดเฉลี่ยอยู่ที่ 65-80 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนไข่ไก่เบอร์ 3 แผงละ 100 บาท โดยไม่รวมค่าแผงกระดาษ ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ฟองละ 3.33 บาท โดยราคาอยู่ในเกณฑ์ที่กระทรวงพาณิชย์กำกับดูแล ส่วนราคาผักส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับปกติ เช่น ผักคะน้า กิโลกรัมละ 25 บาท ผักกาดขาว กิโลกรัมละ 20 บาท ผักบุ้งจีน กิโลกรัมละ 20 บาท ผักชี 130 บาทกิโลกรัมละ เป็นต้น

ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นยอมรับว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนด้านการขนส่งบ้าง แต่เท่าที่ได้ติดตามยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดยื่นขอปรับเพิ่มราคาสินค้าขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเวลานี้ ยอมรับว่ายังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่จากการขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการผลิตและห้างค้าส่งค้าปลีกต่าง ๆ ยังคงจำหน่ายอยู่ในราคาที่เหมาะสม เฉลี่ยขวดละ 59-62 บาท โดยราคาน้ำมันปาล์มที่ปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้เกิดจากประเทศผู้ผลิตหลักอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซียประสบปัญหาในเรื่องของโควิด-19 ทำให้แรงงานแทงปาล์มขาดแคลน ส่งผลกับปริมาณน้ำมันปาล์มในตลาดและการผลิตปาล์มในประเทศลดลง และในเดือนกุมภาพันธ์นี้ประเทศไทยผลปาล์มทะลายของเกษตรกรกำลังเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้นแล้ว ประกอบกับสถานการณ์การผลิตน้ำมันปาล์มในตลาดโลกเริ่มดีขึ้น เชื่อว่าราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดจะสามารถอ่อนตัวลงได้


นอกจากนี้ ในส่วนโครงการ “คนละครึ่ง” ที่เริ่มดำเนินการในเฟสที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ซึ่งประชาชนได้รับเงินคนละ 1,200 บาท ไปใช้จ่าย รวมถึงการเติบเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น เน้นย้ำไปถึงร้านค้า ว่า ขณะนี้มีทีมสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 55 ชุด เพื่อตรวจสอบเข้มในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และภูมิภาค จะมีทีมพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศดูแล  ซึ่งจะมีการบังคับใช้กฎหมายขั้นสูงสุด กับร้านที่โก่งราคาเกินสมควร โดยเฉพาะร้านธงฟ้าประชารัฐที่รองรับผู้ถือบัตรสวัสดิแห่งรัฐ หากพบการขึ้นราคา โก่งราคา หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน ยืนยันว่าจะยกเลิกให้เป็นร้านธงฟ้าทันที ซึ่งขณะนี้เพิกถอนไปแล้ว 116 ร้านค้า จาก 100,000 ร้านค้า

นายสุรศักดิ์ โรจนวิริยาภรณ์ เจ้าของตลาดเวิลด์มาร์เก็ต กล่าวว่า เท่าที่ได้สอบถามแผงเนื้อหมู ไก่ และไข่ ที่ขายในตลาดส่วนใหญ่ระบุว่าราคาลดลงก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน เช่น ราคาเนื้อหมูหน้าฟาร์มที่ส่งมายังแผงหมูในตลาดวันนี้อยู่ที่ 95 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาเนื้อหมูเฉลี่ยอยู่ที่ 170-180 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้น หากปริมาณหมูหน้าฟาร์มเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นเชื่อว่าราคาเนื้อหมูจะปรับลดได้อีกแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ช่วยผู้รอดชีวิตรายแรก เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม

กทม. 28 มี.ค. – ช่วยได้แล้ว 1 ราย ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม เป็นคนงานที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ เร่งนำส่ง รพ. อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.25 น. เพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหาย 117 ราย .-สำนักข่าวไทย

ระดมค้นหา 94 ชีวิต เหตุตึกถล่มย่านจตุจักร

เกาะติดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่มจากแผ่นดินไหว จนท.ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ตัวเลข ปภ. คาดมีคนงานติดอยู่ในซาก 94 ราย ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ยืนยันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย ด้านนายกฯ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการแผ่นดินไหว กทม.

กรมอุตุฯ เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก เขย่าแล้ว 21 ครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 21 ครั้ง นักวิชาการระบุ พลังงานของแผ่นดินไหวลดลงตามลำดับ แต่ที่น่าห่วงคือ โครงสร้างของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง

นายกฯ ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก

นายกฯ เผยสถานการณ์แผ่นดินไหวคลี่คลาย ประชาชนกลับเข้าที่พัก-อาคารสูงได้ พร้อมเปิดพื้นที่สวนสาธารณะให้อยู่ ขณะรถไฟฟ้าเปิดให้ บริการอีกครั้งวันพรุ่งนี้ สั่งเร่งทยอยนำคนออกจากตึกถล่ม จตุจักร ก่อนลงพื้นที่ด่วน ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก