กรุงเทพฯ 2 ก.พ. – “วราวุธ” รมว.ทส. สั่งการจัดทำแผนฟื้นฟูความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม เร่งรัดฟ้องร้องบริษัทต้นเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลใต้ทะเล จ.ระยอง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า หน่วยงานสังกัดกระทรวง ทส. ยังคงติดตามสถานการณ์และปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลใต้ทะเลเขตการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยองให้กลับสู่ภาวะปกติ โดย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเล การเคลื่อนตัวและการกระจายตัวของคราบน้ำมันในพื้นที่ชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) สำรวจความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) สนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่และตรวจสอบและเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดจากคราบน้ำมันต่อพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด
จากนี้ไป คพ. จะเฝ้าระวังตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมทั้งคุณภาพอากาศ น้ำ ดินทราย ตะกอนดิน โดย
- ) วิเคราะห์องค์ประกอบสารอินทรีย์และสารอนินทรีย์ของน้ำมันดิบจากบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) และก้อนน้ำมัน
- ) ติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำทะเลเบื้องต้นและตรวจสอบคราบน้ำมันพื้นที่ชายฝั่ง 8 จุดตั้งแต่หาดพยูน ถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ดอย่างต่อเนื่อง
- ) ตรวจสอบและเก็บตัวอย่างน้ำทะเลส่งตรวจวิเคราะห์ปริมาณโลหะหนักได้แก่ ปรอท ทองแดง แคดเมียม ตะกั่ว เหล็ก รวมถึงปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนทั้งหมด (TPH) 6 จุด ซึ่งดำเนินการแล้ว 3 ครั้ง เบื้องต้นพบว่า ค่าพื้นฐานอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนค่าโลหะหนักและ TPH อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ โดยมีแผนเก็บตัวอย่างน้ำทะเลเพื่อตรวจสอบอีก 3 ครั้ง
- ) ตรวจสอบการปนเปื้อนของดินบนชายหาด
- ) ตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณที่พบคราบน้ำมัน
สำหรับงานที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การจัดทำแผนการฟื้นฟู โดย คพ. ทช. และ อส. จะร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจัดแผนฟื้นฟู เบื้องต้น คพ. ประสานกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และบริษัทเอกชนวิจัยการแก้ไขฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในพื้นที่ทดลอง นอกจากนี้จะเร่งรัดฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตามพ.ร.บ. ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมและพ.ร.บ. ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยทั้งคพ. และทช. เข้ายื่นเอกสารแจ้งกล่าวโทษบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่สถานีตำรวจมาบตาพุดแล้ว
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทส. กล่าวว่า สั่งการให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการประเมินผลกระทบด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้คณะกรรมการควบคุมมลพิษ โดยคพ. จะนำวาระเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติซึ่งมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการประชุมวันที่ 17 ก.พ. นี้
นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่อ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องดังนี้
– เจ้าหน้าที่สายตรวจทางเรือตรวจสอบคราบน้ำมันในอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ส่วนเจ้าหน้าที่สายตรวจทางบกออกตรวจลาดตระเวนตลอดแนวชายหาดแม่รำพึง
– ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมกับทหารเรือดำน้ำสำรวจปะการังบริเวณเขาแหลมหญ้าซึ่งมีปะการังและหญ้าทะเล
ทั้งนี้แม้จะไม่พบคราบน้ำมันใหม่แล้ว แต่เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่เกาะเสม็ด โดยเฉพาะอ่าวพร้าวซึ่งมีชายหาดและแหล่งปะการังตามข้อสั่งการของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย