กรุงเทพฯ 31 ม.ค.- คณะกรรมการแก้ปัญหาสลากเกินราคา กำชับสำนักงานสลากฯ คุมเข้มห้ามเวียนสลากขาย เตรียมเสนอ แก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ เพิ่มโทษ พร้อมจัดชุดเฉพาะกิจ ออกตรวจจุดเสี่ยงทำผิดบ่อยครั้ง
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาที่เกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เรียกประชุมนัดแรก หลังจากนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้ง ได้สั่งการให้สำนักงานสลากฯ คุมเข้มผู้ค้าสลากรายย่อย ซึ่งกำลังลงทะเบียนเพื่อรับโควตาสลากซื้อ จองล่วงหน้า 2 แสนคน แต่มีผู้สมัครผ่านเว็บไซต์ เกือบล้านคน เปิดลงทะเบียนวันนี้ (31 ม.ค.) เป็นวันสุดท้าย คาดว่าจะคัดเลือกได้แล้วเสร็จ เพื่อจำหน่ายได้ในงวดเดือน พ.ค.นี้ เพื่อต้องการให้คุมเข้มห้ามนำสลากไปขายต่อ การขายเกินราคา รวมชุด หากพบกระทำผิด ให้ตัดสิทธิ์ และใช้โทษปรับขั้นสูงสุด
ที่ประชุมตั้งอนุกรมการ ศึกษาแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ เพื่อเพิ่มโทษผู้กระทำผิด จากปัจจุบันปรับ 10,000 บาท เพื่อให้มีบทลงโทษเพิ่มเติมอีกหลายด้าน เพราะบางประเด็นยังไม่มีบทลงโทษอย่างชัดเจน ยอมรับว่า การแก้ไข พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ ต้องใช้เวลา จึงตั้งชุดเฉพาะกิจ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าชุด โดยรัฐบาล ยังพร้อมผลักดันการพัฒนาแพลทฟอร์ม เพื่อเป็นตลาดกลางให้ผู้ค้า นำสลากมาฝากขายผ่ายระบบออนไลน์ ของสำนักงานสลากฯ นับว่าเป็นอีกแนวทางในการป้องกันการเปลี่ยนมือขายสลาก
นายลวรณ แสงสนิท ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล รายงานที่ประชุมว่า ปัญหาสลากเกินราคา เกิดจากอาชีพสลากในปัจจุบัน เป็นอาชีพเสรี ไม่มีการควบคุมตามกฎหมาย คนที่มีเงินทุน สามารถซื้อสลากไปขายได้ และขณะนี้ได้เกิด แพลตฟอร์มออนไลน์ของเอกชนจำนวนมาก ที่มีการไปกว้านซื้อสลากมาเพื่อจำหน่ายเกินราคา สำนักงานฯ ได้ตรวจพบและยกเลิกสัญญานับหมื่นราย จึงต้องวางหลักเกณฑ์ การคัดกรองผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ซื้อจองฯ ล่วงหน้าให้รอบคอบรัดกุม
ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพิ่มอีก 3 คณะ เพื่อช่วยกลั่นกรอง ได้แก่ คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรับบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้มูลข้อเท็จจริงและจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคาเกินกว่าที่กำหนด และคณะอนุกรรมกรสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าชุด ตรวจสอบสมาชิกขององค์กร มูลนิธิต่างๆ ได้รับสลากจำนวนเท่าใด วัตถุประสงค์รวมถึงการบริหารจัดการสลากของแต่ละหน่วยงานทำอย่างไร เป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ อีกทั้ง ในส่วนของสัญญาการรับสลากไปจำหน่าย ที่สมาคม องค์กร ทำกับสำนักงานสลากฯ นั้น จะต้องเพิ่มสภาพบังคับให้เด็ดขาด รวมถึงแสวงหาสภาพบังคับทางแพ่งที่เคร่งครัดขึ้น
สำหรับรายชื่อผู้ที่ซื้อจองล่วงหน้าฯ ที่ผ่านมา รวมถึงที่จะทำการคัดเลือกนั้น นายเสกสกลฯ กล่าวว่า ตนได้กำชับให้สำนักงานฯ ตรวจสอบให้มีความรัดกุม รวมถึงต้องตรวจสอบว่ามีขบวนการที่แสวงหาผลประโยชน์จากโครงการลงทะเบียนซื้อจองล่วงหน้าฯ ด้วยหรือไม่ เพื่อให้ความพยายามในการคัดกรองผู้ขายจริง ส่วนการจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ ในการลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายสลาก รวมถึงผู้ที่มีพฤติกรรมเป็นนายทุนนำสลากไปรวมชุด ทั้งนี้ เพื่อให้มาตรการ มีความครอบคลุม รอบคอบและคำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่ายก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป.-สำนักข่าวไทย