วอนรัฐบาลช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่าที่ถูกเลิกจ้างและตัดเงินเดือน

กรุงเทพฯ 26 ม.ค.- สมาคมผู้พิทักษ์ป่าออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกเลิกจ้างและปรับลดเงินเดือนเนื่องจากรัฐบาลตัดลดงบประมาณปี 2565 สำหรับดูแลป่าลง 47% ขณะที่มีรายงานข่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของบกลางแล้ว โดยหวังจะเสนอให้ครม. พิจารณาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่บรรจุเข้าวาระไม่ทัน จึงคาดว่า จะเข้าสู่ที่ประชุมครม. ได้ในสัปดาห์หน้า


แถลงการณ์ของสมาคมผู้พิทักษ์ป่ามีใจความส่วนหนึ่งว่า ในปีงบประมาณปี 2565 รัฐบาลปรับลดงบดูแลป่าลง 47% จากที่เคยได้ 16,143 ล้านบาทในปี 2564 ปีนี้เหลือเพียง 8,534 ล้านบาท ส่งผลกระทบให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชต้องเลิกจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1,731 คน คิดเป็น 33% แต่มีเจ้าหน้าที่บางส่วนยอมให้ปรับลดเงินเดือนลง 25% จาก 10,000 บาท เหลือ 7,500 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกเลิกจ้าง 

ทั้งนี้ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติให้ข้อมูลว่า งบประมาณส่วนนี้ลงทุกปีตั้งแต่ปี 2561 แต่ปีนี้ลดมากที่สุด ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าก็มีไม่พออยู่แล้ว โดยเฉลี่ยแล้วเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1 คน ต้องดูแลพื้นที่ป่ามากกว่า 1 0,000 ไร่


นอกจากนี้มูลนิธิสืบ นาคะเสถียรเรียกร้องว่า เงินเดือนและสวัสดิการของพนักงานพิทักษ์ป่าไม่ต่างจาก 10 ปีที่แล้ว ในขณะที่รัฐสามารถอนุมัติงบ 13,800 ล้านบาท มาจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ได้ แต่ไม่สามารถเจียดเงินมาดูแลคุณภาพชีวิตของคนที่ดูแลทรัพยากรของประเทศได้ 

ต่อมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ทำหนังสือยื่นขอจัดสรรงบประมาณจากงบกลางให้สำนักงบประมาณพิจารณาถึงความจำเป็นในการจ้างเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า เพื่อปกป้องรักษาผืนป่าของประเทศ

ทางสมาคมผู้พิทักษ์ป่าขอเรียนว่า เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าคือบุคลากรสำคัญที่ช่วยดูแลปกป้องทรัพยากรธรรมชาติด้วยเป็นกำลังสำคัญในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติจากการรุกราน โดยการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ การบังคับใช้กฎหมาย กิจกรรมสิ่งแวดล้อมศึกษา การสร้างความสัมพันธ์กับชุมชน การควบคุมป้องกันและดับไฟป่า การดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยและงานด้านอื่นๆ อีกมากมาย ถือได้ว่า เป็นผู้รับประกันความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติอันทรงคุณค่า ที่ปัจจัยสำคัญของการดำเนินชีวิตและเป็นปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจในการประกอบอาชีพทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว 


ทั้งนี้การที่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกเลิกจ้างและปรับลดเงินเดือน ทำให้บุคลากรกลุ่มนี้ขาดหายไป และบางส่วนได้ความเดือดร้อนในการดำรงชีพ ขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งเป็นกำลังหลักของการดูแลพื้นที่คุ้มครองลดลงลง จึงย่อมส่งผลโดยตรงต่อการปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่าซึ่งเป็นสมบัติส่วนร่วมของคนทั้งชาติ สมาคมผู้พิทักษ์ป่าจึงออกแถลงการณ์ไปยังรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงบประมาณ กรรมาธิการพิจารณางบประมาณ เพื่อจัดสรรงบกลางในการจ้างเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าและเพิ่มเงินเดือนในเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าให้เพียงพอกับการดำรงชีพในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะการดูแลและคุ้มครองพื้นที่ป่าไม้และสัตว์ป่าที่สมบูรณ์อยู่เดิมแล้วให้คงอยู่ต่อไปด้วยการลาดตระเวนอย่างมีประสิทธิภาพ การนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ การแสวงหาความร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น เป็นการลงทุนที่ต้นทุนต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับการปล่อยให้เกิดความเสียหาย และใช้งบประมาณในการฟื้นฟูให้กลับคืนมามีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม

เฟซบุ๊ก เพจ ผู้พิทักษ์ป่า TOR Ranger โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ทำหนังเวียนแจ้งรวมทั้งส่วนราชการและหน่วยงานรัฐเร่งบรรจุข้าราชการใหม่เพื่อแก้ปัญหาการว่างงานจากโควิด-19 โดยให้สรรหา สอบคัดเลือก และบรรจุแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการหรือปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ เพื่อทดแทนอัตราว่างจากการเกษียณและอัตราตั้งใหม่ที่ได้รับจัดสรรไว้แล้วให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว 

ทั้งนี้ยังแสดงข้อสงสัยว่า จะมีผลมาถึงผู้พิทักษ์ป่าซึ่งพนักงานจ้างเหมาหรือไม่ หากได้เป็นพนักงานราชการจะทำให้ค่าตอบแทนปรับขึ้นและออกตรงเวลา 

รายงานจากกระทรวง ทส. ระบุว่า ได้เสนอของบกลางแล้วตามคำสั่งของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว. ทส. โดยหวังจะเสนอเข้าสู่การที่ประชุมครม. ในวันจันทร์ที่ 24 ม.ค. แต่บรรจุเข้าวาระไม่ทัน จึงคาดว่า จะเข้าสู่ที่เสนอให้ครม. พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้พิทักษ์ป่าที่ถูกเลิกจ้างและปรับลดเงินเดือนทั้งหมด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 – พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กทม. 22 ส.ค.-ศาลชั้นต้นยกฟ้อง “ทักษิณ” คดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เจ้าตัวยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานฝ่ายโจทก์ เห็นว่าคลิปเสียงที่โจทก์นำมาเป็นหลักฐานไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นคลิปที่มีการตัดต่อหรือไม่ และศาลเชื่อว่าบทสัมภาษณ์น่าจะมากกว่าความยาวของคลิปดังกล่าว จึงพิพากษายกฟ้อง หลังฟังคำพิพากษา นายทักษิณ ยิ้มและกล่าวคำพูดแรกขอบคุณทีมทนายความ หลังจากนี้จะได้ทำงานเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย

ฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้ว ร่วมประชุม RBC ชุดใหญ่ที่สระแก้ว

สระแก้ว 22 ส.ค.-การประชุม RBC ระดับกองเลขาฯ ไทย-กัมพูชา รอข้ามคืน ฝ่ายกัมพูชาส่งข้อเสนอให้ผู้บังคับบัญชาตรวจ ก่อนเปิดโต๊ะเจรจา ‘ตี1’ เสร็จ ‘ตี2’ นำเข้า RBC วงใหญ่ 10 โมงเช้าวันนี้ ซึ่งฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้วตามกำหนด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับกองเลขานุการ ที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 ซึ่งเดิมกำหนดในเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา มาถึงเวลา 18.00 น. กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพบก ชี้แจงว่า การประชุมยังดำเนินการอยู่ ผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล ซึ่งฝ่ายกัมพูชาต้องให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองพิจารณา ก่อนขึ้นโต๊ะเจรจากับฝ่ายไทย จนถึงเวลาประมาณ 00.05 ของวันที่ 22ส.ค. พลโท ซอ กึมปะ รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ประธานคณะทำงาน และคณะของฝ่ายกัมพูชา เดินทางมาถึง สโมสร […]

ประชุม RBC ระดับเลขาฯ ไม่ยกเลิก หลังมีข่าวส่อแววล่ม

สระแก้ว 21 ส.ค.- ไม่ล่ม! การประชุม RBC ระดับเลขานุการ ยังไม่ยกเลิก กระบวนการหารือยังคงดำเนินต่อไป แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวส่อล่ม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เดินทางมาเข้าร่วม ภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หลายฝ่ายจับตาไปที่การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมื่อถึงเวลาประชุม RBC ระดับเลขานุการ ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้เดินทางมา บรรยากาศที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – กัมพูชา (RBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกำหนดในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุม กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นประธานคณะทำงาน ฝ่ายไทย ขณะกัมพูชา นำโดย พลโท ซอ […]