นนทบุรี 21 ม.ค.- ปลัดพาณิชย์เผยตัวเลขแจ้งปริมาณเก็บเนื้อหมูเกิน 5,000 กิโลกรัมในห้องเย็นสัปดาห์แรกกว่า 8.3 ล้านกิโลกรัม ย้ำหากห้องเย็นรายใดที่ขึ้นทะเบียนกรมปศุสัตว์ไม่แจ้งถือว่าทำผิดกฎหมาย รอดูรายงานเพิ่มวันที่ 24 ม.ค.นี้ อีกรอบ
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ได้รับรายงานตัวเลขปริมาณสตอกหมูชำแหละทั่วประเทศที่ได้รับแจ้ง ตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.) ที่กำหนดให้ผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสตอกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป โดยแจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.นี้เป็นต้น ซึ่ง ณ วันที่ 17 ม.ค.65 ในส่วนผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสตอกหมู ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมปศุสัตว์กว่า 400 ราย ได้รายงานปริมาณหมูเข้ามา 8,352 ตัน หรือกว่า 8.3 ล้านกิโลกรัม ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานได้แก่กรมการค้าภายในและกรมปศุสัตว์กำลังติดตามและตรวจเช็คข้อมูลความถูกต้องเพื่อให้ทราบตัวเลขปริมาณเนื้อหมูที่อยู่ในการครอบครองของผู้ค้าดังกล่าวให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตามประกาศของ กกร.ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสตอกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป โดยแจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน ดังนั้น จะต้องติดตามดูในวันที่ 24 ม.ค.นี้ว่า ผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสตอกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป จะมีการแจ้งรายงานปริมาณเนื้อหมูเข้าและออกให้กับส่วนราชการทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ ยอมรับว่าผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไปและผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสตอกหมู ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมปศุสัตว์กว่า 400 ราย จะต้องรายงานปริมาณหมูและเนื้อหมูตามประกาศ กกร.หากผู้ประกอบการรายใดยังไม่ยอมแจ้งตามประกาศของ กกร.ส่วนราชการจะส่งหนังสือเตือนและหากยังนิ่งเฉยไม่ยอมจัดส่งรายงานดังกล่าวตรวจพบจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ .-สำนักข่าวไทย