กรุงเทพฯ 20 ม.ค. – ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ ระบุเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแล้ว
นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีของยานยนต์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเทคโนโลยีระบบการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์สันดาปภายใน เป็นการขับเคลื่อนโดยการใช้ไฟฟ้านั้น สถาบันยานยนต์ (สยย.) ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ดังนี้
1. ขยายขอบข่ายการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบแบตเตอรี่ขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า EV Hybrid และ Plug-in Hybrid ตามมาตรฐาน มอก.3026-2563 หรือ UN R100 และระบบแบตเตอรี่ขับเคลื่อน รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตามมาตรฐาน มอก.2952-2561 หรือ UN R136 รวมถึงการตรวจสอบเซลล์ และโมดูลแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำหรับการผลิตแบตเตอรี่แพคขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้าให้มีความปอดภัย
นอกจากระบบแบตเตอรี่ไฟฟ้าแล้ว ยังได้ขยายการให้บริการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ ทั้งที่ผลิตขึ้นในประเทศ และนำเข้า เพื่อให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
2.การพัฒนากิจกรรมการตรวจประเมินเพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ดังนี้
•กิจกรรมการตรวจรับรองวัตถุดิบ Free Zone ตามประกาศกรมศุลกากรเลขที่ 144/2561 โดยสถาบันยานยนต์ได้จัดทำหลักเกณฑ์ในการรับรองวัตถุดิบยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 9 รายการ
•กิจกรรมการตรวจประเมินตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
3.การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากรสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งได้จัดทำหลักสูตรร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ อาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และตั้งเป้าปี พ.ศ. 2565 ในการฝึกอบรมบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เป็นจำนวนกว่า 700 ราย เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า
นอกจากนี้สถาบันยานยนต์ยังมีกิจกรรมงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเรื่อง การเปลี่ยนผ่านห่วงโซ่อุปทานไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ ประกอบด้วย การพัฒนาบุคลากรเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ในประเทศ พร้อมจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายด้านยานยนต์สมัยใหม่ ในประเด็น “Carbon neutral” ประกอบด้วย การศึกษาความเป็นไปได้ของการนำมาตรฐาน CAFÉ มาใช้ในประเทศไทย ศึกษาห่วงโซ่มูลค่า ELV เพื่อการประยุกต์ใช้ในประเทศไทย รวมถึงโอกาสและความท้าทายของการดัดแปลงยานยนต์ไฟฟ้าต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในปี พ.ศ. 2565 นี้อีกด้วย
“เชื่อว่า ความพร้อมที่สถาบันยานยนต์ กำลังสร้างขึ้นเหล่านี้ จะรับรองอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตแบบก้าวกระโดด พร้อมแนวโน้มของความนิยมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากหลายปัจจัยได้อย่างแน่นอน” ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย