กางแผนปี 65 ส่งเสริม GI ครบวงจรดันสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น

นนทบุรี 20 ม.ค.-รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์กางแผนปี 65 ส่งเสริม GI ครบวงจร ดันสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น ขึ้นทะเบียน – ควบคุมคุณภาพ – เพิ่มช่องทางการตลาด หวังเพิ่มรายได้ให้ชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม


นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และกระทรวงพาณิชย์ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว โดยการส่งเสริมการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ไทยอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของกรมทรัพย์สินทางปัญญา เริ่มตั้งแต่การส่งเสริมการขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทยทั่วทุกภูมิภาค การจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการส่งเสริมการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการเห็นผลเป็นรูปธรรม สามารถขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทยเพิ่มอีก 18 รายการ รวมเป็น 152 รายการ สร้างมูลค่าเพิ่มรวมกว่า 39,000 ล้านบาท ความสำเร็จดังกล่าวเป็นกลไกสำคัญในการช่วยยกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน ช่วยผู้ประกอบการและเกษตรกรรายย่อยไม่ถูกกดราคา สร้างกระบวนการผลิตสินค้าอัตลักษณ์พื้นที่ของไทยให้เป็นไปตามมาตรฐาน และทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า GI ไทย สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่นชุมชนอย่างยั่งยืน

สำหรับรายละเอียดแผนการทำงานในปี 2565 กระทรวงพาณิชย์ ยังคงเดินหน้ามาตรการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมสินค้า GI ไทยอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดลงพื้นที่ให้ความรู้การขอรับความคุ้มครองสินค้า GI ให้กับชุมชนกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ ผลักดันการจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนและเร่งรัดการตรวจสอบคำขอทั้งในและต่างประเทศ จัดทำระบบควบคุมคุณภาพให้กับสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เพื่อรักษามาตรฐานสินค้าและสามารถส่งออกไปต่างประเทศ พร้อมส่งเสริมผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายกว่า 800 ราย ให้นำตราสัญลักษณ์ GI ไปใช้ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคสินค้า”


“นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้เดินหน้าโปรโมตสินค้า GI ไทย ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ การจัดพื้นที่จำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำใจกลางเมือง จัดแสดงสินค้าในงานระดับนานาชาติ อาทิ ThaiFex 2022, STYLE 2022, Rice Matching 2022 ฯลฯ รวมทั้ง การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้กับสินค้า GI เพื่อสร้างความโดดเด่นตรงความต้องการของตลาด

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ขอเชิญชวนประชาชนร่วมสนับสนุนของดีจากทั่วทุกท้องถิ่นไทย พร้อมสัมผัสคุณภาพสินค้าตามมาตรฐาน GI ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565 นี้ โดยติดตามข้อมูลข่าวสาร GI ได้ที่ Facebook : GI Thailand ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน หรือหน่วยงานท้องถิ่น ที่สนใจนำสินค้าอัตลักษณ์ชุมชนเข้าสู่ระบบการคุ้มครอง GI สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง