หอการค้าไทย-ททท.รับฟังเอกชนภาคเหนือเปิด Test & Go

กรุงเทพฯ 20 ม.ค.- หอการค้าไทย ร่วมกับ ททท. และผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ฟังเสียงผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวภาคเหนือ เสนอเดินหน้าเปิด Test & Go


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังประชุมหารือกับนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้ประกอบการ สมาคม และเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ ณ โรงแรม แคนทารี่ จ.เชียงใหม่ ว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการรับฟังข้อเสนอแนะและแนวทางการฟื้นฟูภาคท่องเที่ยว รวมถึงความพร้อมในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาต่างได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรงจากการระบาดของโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยมีผู้ประกอบการจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง กว่า 123 ราย เข้าร่วม อาทิ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในภาคเหนือ มัคคุเทศก์เชียงใหม่ กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารและสถานบันเทิง ธุรกิจนวด สปา กลุ่มสินค้าหัตกรรมและศูนย์การค้า เป็นต้น โดยทางหอการค้าไทย ได้ให้ความเห็นว่าจากข้อมูลทางสาธารณสุข

ปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดของโอไมครอนยังอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรงเท่าปีที่แล้ว ซึ่งต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่ร่วมกับการระบาดให้ได้ เพื่อที่จะเดินหน้าทางเศรษฐกิจต่อไปในความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยข้อเสนอหลักจากการระดมความเห็นคือ การนำมาตรการ test &go กลับมาใช้ และปรับให้เหมาะสมกับการสถานการณ์แพร่ระบาด ณ เวลานี้ ซึ่งควรที่จะเร่งการดำเนินการ เพราะตอนนี้เป็นช่วง Hi-season ของการท่องเที่ยว หากตัดสินใจช้า จะเสียโอกาสให้ประเทศอื่นที่ดึงนักเดินทางไป ก็จะสามารถช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวและบริการ มีเงินหมุนเวียนในระบบ รักษาการจ้างงานของแรงงานไว้ได้ และพร้อมที่จะกลับมาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยหอการค้าไทย คาดว่า หากมีการนำระบบ test &go มาใช้ได้ นักท่องเที่ยวในปี 65 นี้ น่าจะสูงถึง 5-6 ล้านคนในปีนี้แน่นอน


ทั้งนี้  ผู้ว่าฯ ททท. ได้นำเสนอและชี้แจง แผนการตลาดด้านการท่องเที่ยว ทั้งระยะสั้นและระยะยาว หลังการเปิดประเทศ  โดยให้ความเห็นว่าการประชุม ศบค. ชุดใหญ่ ในวันพรุ่งนี้ (20 มค 65) มีแนวโน้มที่ดีที่จะมีการพิจารณาข้อเสนอที่จะปรับมาตรการระดับสีของจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงพิจารณานำมาตรการ test & go กลับมาใช้อีกครั้ง ตามข้อเสนอของผู้ประกอบการ โดยที่ผ่านประเทศไทยพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล ในปี 2562 รายได้รวม 3 ล้านล้านบาท ปี 63 รายได้ลดลงเหลือ 8 แสนล้านบาท และปี 64 ที่ผ่านมา รายได้จากภาคการท่องเที่ยวคาดว่าไม่เกิน 4 แสนล้านบาท ซึ่งเห็นได้ชัดว่าจะต้องเร่งยกเครื่องการท่องเที่ยวของไทยในรูปแบบใหม่ โดยในอนาคตจะต้องเน้นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพคือ CUSTOMER CENTRIC โดยใชนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริม EXPERIENCE TOURISM เน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ให้นักท่องเที่ยว และ COLLABORATION เพื่อการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพัฒนาการท่องเที่ยวไปสู่ Value over Volume ในอนาคตอันใกล้ให้ได้

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการอาวุโสหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 

ยังได้นำเสนอรูปแบบการสร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วย Happy Model เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้ามาประเทศไทย ซึ่งเสริมเข้ากับ แอพลิเคชัน tagthai ที่ถือเป็น open platform เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งทาง ททท. และผู้ประกอบการในพื้นที่ต่างเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว ซึ่งจะช่วยให้ค่าเฉลี่ยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยเพิ่มขึ้นได้


ที่ประชุมยังได้มีการหารือในประเด็นการกำกับดูแลธุรกิจท่องเที่ยวของชาวต่างด้าวในพื้นที่ ที่มีการดำเนินธุรกิจในลักษณะผิดกฎหมาย ทั้งในประเด็น ไกด์นำเที่ยว และ Platform ท่องเที่ยวที่ไม่ได้เสียภาษีอย่างถูกต้อง นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้หอการค้าไทย และ ททท. ช่วยกันผลักดัน เรื่อง การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการรายย่อยในธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ากฎเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อค่อนข้างเข้มงวด ทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไขเพื่อช่วยให้ภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาประคองกิจการต่ออีกครั้ง

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ ได้มีการนำเสนอความพร้อมและแนวทางด้านสาธารณสุขของจังหวัด โดยเสนอยกระดับพื้นที่สีฟ้าทุกอำเภอ เพื่อให้สามารถรองรับนักเดินทางต่างประเทศที่จะเข้ามาท่องเที่ยว ซึ่งจากเดิมมีการประกาศพื้นที่สีฟ้าเพียง 5 อำเภอในจังหวัดเท่านั้น แม้จะมีการระบาดในพื้นที่อยู่บ้าง แต่จากข้อมูลพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและเตียงผู้ป่วย ยังอยู่ในระดับที่สามารถรองรับได้

อย่างไรก็ตาม หอการค้าไทย มองว่า การฟื้นฟูประเทศในปีนี้ จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับทุกมิติของประเทศ เพราะแต่ละด้านได้รับผลกระทบไม่เท่ากัน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ที่เคยสร้างรายได้ให้ประเทศ 15-20% ของ GDP ดังนั้น หอการค้าไทยจึงเดินหน้าเน้นรับฟังเสียงผู้ประกอบการเพื่อฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวควบคู่กับการค้า โดยใช้แนว Trade & Travel โดยจะได้สะท้อนความต้องการของผู้ประกอบการ แล้วหารือแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์เบรกแตก

ผู้โดยสารเผยได้กลิ่นไหม้ ก่อนบัสพุ่งชนท้ายรถพ่วง ตาย 7 เจ็บกว่า 50

รถบัสโดยสารพุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วงไฟลุกท่วม เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บอีกกว่า 50 คน นายอำเภอนาดี เผยคาดรถทัวร์เบรกแตก แต่กำลังเร่งตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง ขณะที่ผู้โดยสารเผยได้กลิ่นไหม้ และรถบัสแวะจอดปั๊มครั้งเดียว ก่อนขับยาว

ทรายสก๊อต

อธิบดีกรมอุทยานฯ ลั่นทำงานร่วมกับ “ทราย สก๊อต” ต่อไม่ได้

อธิบดีกรมอุทยานฯ เผยสำนักอุทยานแห่งชาติกำลังรวบรวมข้อร้องเรียนที่มีต่อ “ทราย สก๊อต” มาให้พิจารณาเพื่อให้ปลดจากตำแหน่งที่ปรึกษา ชี้ไม่สามารถร่วมงานกันต่อไปได้ มีพฤติกรรมไม่ให้เกียรติองค์กร คอนเทนต์เผยแพร่ในโซเชียลมีเดียกระทบผู้อื่น

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

กรรมการไชน่าเรลเวย์

คุม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ฝากขัง-เร่งล่านอมินีไทยที่ยังหลบหนี

DSI คุมนายชวนหลิง จาง กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ฝากขังศาลอาญาข้อหาใช้นอมินี ขณะที่ดีเอสไอเร่งล่านอมินี คาดหนีกลบดานในไทย