ทำเนียบฯ 18 ม.ค.- ครม. อนุมัติสร้างทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต วงเงิน 14,670 ล้านบาท เปิดประมูลกลางปี 65 หวังลดอุบัติเหตุทางถนน เพิ่มเส้นทางอพยพภัยพิบัติ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มติอนุมัติ โครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ลงทุนในรูปแบบคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) เงินลงทุนเริ่มต้น 14,670 ล้านบาท ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร ที่ประชุมจึงอนุมัติค่าเวนคืน ชดเชยสิ่งปลูกสร้าง วงเงิน 5,792 ล้านบาท กทพ. เตรีมประกาศเชิญชวนเอกชนลงทุน ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน นี้ เริ่มก่อสร้างในปี 2566 และคาดว่าเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2570
สำหรับโครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มเส้นทางการเดินทางระหว่างตัวเมืองฝั่งตะวันออก ของภูเก็ตไปยังหาดป่าตองให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว ลดอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้น เนื่องจาก สภาพเส้นทางที่ลาดชันและคดเคี้ยว และใช้เป็นเส้นทางอพยพ กรณีเกิดภัยพิบัติ (เช่น กรณีเกิดสึนามิ) มีลักษณะ/รูปแบบ เป็นโครงการก่อสร้างทางยกระดับ มีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลาง ของแนวเส้นทาง ระยะทางรวม 3.98 กม. เป็นทางพิเศษ ขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง มีจุดเริ่มต้นโครงการเชื่อมกับ ถ.พระเมตตา ในพื้นที่ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จนถึงจุดสิ้นสุดโครงการฯ
ถนนพิเศษในพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ มีทางขึ้น -ลง 2 แห่ง และมีด่านเก็บค่าผ่านทางตั้งอยู่บริเวณ ต.กะทู้ 1 ด่าน สำหรับรูปแบบการลงทุน เป็นลักษณะการร่วมลงทุน ระหว่าง รัฐและเอกชน (PPP) ใน รูปแบบ PPP Net Cost โดยภาครัฐรับผิดชอบการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน และภาคเอกชนรับผิดชอบงานส่วนที่เหลือทั้งหมด ได้แก่ การออกแบบ รายละเอียดและการก่อสร้าง และการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance : O&M) โดยเอกชน จะโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมดให้แก่ภาครัฐก่อนเริ่ม ดำเนินงานพร้อมทั้งให้เอกชนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รายได้ค่าผ่านทาง ระยะเวลาสัมปทาน 35 ปี
“โครงการทางพิเศษสายกะทู้ – ป่าตอง จ.ภูเก็ต คาดการณ์จะใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี (พ.ค. 2565 – ก.ค. 2570) เพื่อประโยชน์ในการสัญจรกับประชาชนในพื้นที่ตลอดจนนักท่องเที่ยว และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศเป็นไปตามการสนับสนุนการพัฒนา จ.ภูเก็ต ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) อีกด้วย นายกรัฐมนตรียังย้ำในที่ประชุม ครม. ว่าการลงทุนของภาครัฐทุกโครงการฯ ทั้งโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โครงการไฟฟ้าชุมชน และโครงการอื่นๆ ประชาชนต้องได้รับประโยชน์สูงสุด” นายธนกร กล่าว .-สำนักข่าวไทย