“สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด” คาดเศรฐกิจไทยปี 65 โต 3.3 %

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดเศรฐกิจไทยปี 65  โต 3.3 % ชี้เริ่มทยอยฟื้นตัว ดอกเบี้ยนโยบาย ยังอยู่ที่ 0.5 เชื่อการท่องเที่ยว ฟื้นช่วงปลายปี 65 ช่วยพยุงเศรษฐกิจ


ดร.ทิม ลีฬหะพันธ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เปิดเผยว่า ธนาคาร มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 3.3 % ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่มองว่าปีนี้ไทยจะเติบโต ที่ 4 %  โดยมองว่าเศรษฐกิจจะเริ่มทยอยฟื้นตัว ส่วนเรื่องอัตราเงินเฟ้อของไทย แม้ราคาสินค้าจะแพงขึ้นอย่างชัดเจน แต่ความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย ยังคงมองว่าอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบที่ 1-3 % 

สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5 %  ตลอดทั้งปี และยังไม่เห็นโอกาสปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากสถานการณ์ของโควิด สายพันธ์ โอไมครอน ยังไม่จบ อย่างไรก็ตาม ธนาคารคาดว่า  อาจมีการปรับขึ้นในช่วงปลายปีหน้า อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25 จนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปอยู่ที่  1 % ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารประเทศต่างๆ  


ด้านค่าเงินบาท  ต้นปี 2565 อยู่ที่ 33.4 ดอลลาร์สหรัฐ แต่การที่ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ประกอบกับผลกระทบจากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ค่าเงินบาทน่าจะยังคงอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม หากการท่องเที่ยวค่อยๆ กลับมาฟื้นตัว ค่าเงินบาทน่าจะเริ่มแข็งค่าขึ้นในครึ่งปีหลัง อยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในสิ้นปี 2565

ส่วนด้านการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมาก ทำให้ประเทศไทย มีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมาตลอด  จนมาเริ่มขาดดุลในปีที่แล้ว  เนื่องจากก่อนโควิดไทยมีนักทองเที่ยว หยุดรับนักท่องเที่ยวช่วง 2 ปี จนเริ่มกลับมามีนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี แต่เชื่อว่า ปลายปี 2565 ภาคการท่องที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวได้ อย่างไรก็ตาม หากนักท่องเที่ยวกลับมาได้ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนต่อปี จะช่วยทำให้ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย กลับมาเป็นบวกได้อีกครั้ง    

ดร.ทิม ยังสะท้อน ปัจจัยด้านการเมือง โดยเฉพาะการเลือกตั้ง ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจว่า  การเลือกตั้ง อาจคาดการณ์ไม่ได้ชัดเจน ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงใดของปี 2565 แต่จะไม่เกินเดือนมีนาคม 2566 พร้อมฝากให้รัฐบาล มีการผ่านงบประมาณรายจ่าย ปี2566  ให้แล้วเสร็จ ก่อนการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ เหมือนที่เคยเกิดขึ้น ช่วงปี 2562-2563 จนทำให้เการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดินล่าช้าไปถึง 2 ไตรมาส   


สำหรับสถานการณ์เรื่องหนี้สาธารณะ ล่าสุด ไทยมีหนี้สาธารณะ อยู่ที่ร้อยละ 60 ของจีดีพี  แม้จะยังสามารถกู้มาใช้จ่ายเพิ่มเติมได้อีกประมาณ ร้อยละ 10  จากการขยับเพดานหนี้สาธารณะไม่ให้เกินร้อยละ 70  แต่ มองว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องกู้เพิ่ม เนื่องจากเศรษฐกิจ ไทยกำลังค่อยๆ ฟื้นตัว และสามารถนำส่วนที่เหลือจากการกู้จำนวน 5 แสนล้าน เมื่อปี 2564 มาใช้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  โดยอยากให้เก็บร้อยละ 10 ที่ยังสามารถกู้เพิ่มได้ เป็นเครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ใช้ในอนาคต ที่ยังไม่รู้ว่าจะเจอกับวิกฤติใดอีกหรือไม่ เช่น ราคาน้ำมัน ที่อาจเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยไปทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทีมกู้ภัยเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายแผ่นดินไหวเมียนมา

ทีมกู้ภัยยังเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา แม้จะผ่านมา 4 วันแล้ว จนกลิ่นศพเริ่มคละคลุ้งไปทั่ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตใกล้แตะหลัก 3,000 ราย

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

ปูพรมค้นหาทุกจุด ตึก สตง.ถล่ม

ปฏิบัติการปูพรมทุกจุด ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม ได้กลิ่นค่อนข้างแรง พบลักษณะคล้ายน้ำเหลืองและคราบเลือดในโซน B แต่ก็ยังไม่สามารถทลายปูนและตัดเหล็กเข้าไปได้

ไทยตอนบนอากาศร้อนและร้อนจัดบางพื้น มีฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอากาศร้อน และร้อนจัดบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือและภาคกลาง ฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนอง

“อนุทิน” เผยยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง.ถล่ม ต้องรอตรวจสอบเชิงลึก

“อนุทิน” ระบุยังไม่สรุปสาเหตุตึก สตง. ถล่ม บอกต้องรอตรวจสอบเชิงลึก ชี้สภาพหน้างานตอนนี้ยังเก็บหลักฐานไม่ได้ อยู่ระหว่างกู้ภัย คาดใช้เวลาอีกเป็นเดือน

คุมตัวผัวเมียชิงทอง 8 บาท ย่านบางพลี ทำแผนฯ

ตำรวจคุมตัวสามีภรรยา ชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังร่วมกันก่อเหตุชิงทอง 8 บาท ร้านทองย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ อ้างต้องการเงินไปเป็นเจ้าภาพงานบุญผ้าป่า หลังสัญญากับทางวัดไว้