ลงพื้นที่เช็กลิสต์ 8 ข้อ เปิดสถานีกลางบางซื่อ-ใช้งานหัวลำโพง 16 ม.ค.

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค. – คณะอนุกรรมการฯ เตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการสายสีแดง และรูปแบบการเดินรถไฟเข้าหัวลำโพง ประชุมนัดแรก เตรียมลุยลงพื้นที่เพื่อทำเช็กลิสต์ 8 ข้อ 16 มกราคมนี้

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมหัวหน้ากลุ่มด้านภารกิจขนส่ง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านประเมินคุณภาพสถานีรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อและรูปแบบการเดินรถไฟเข้าสู่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม, บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด, บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด, สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ, สภาวิศวกร, สภาองค์กรของผู้บริโภค และสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมเป็นอนุกรรมการเข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom Cloud meetings


นายสรพงศ์ กล่าวว่า ในคราวการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางชื่อ ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการจัดทำเซ็คลิสต์ (Checklist) ร่วมกับผู้เชี่ยวขาญและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คำแนะนำ เพื่อตรวจสอบผลกระทบกับประชาชน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อของประชาชนและการขนส่งสินค้า การอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยในการเดินรถ ซึ่ง ขร. ได้ดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ โดยอ้างอิงจากมาตรฐานสากลต่างประเทศ ได้แก่ EN13816 CoMET and Nova IRS RSI NRPS ประกอบไปด้วย 8 ด้าน ดังนี้
1) โครงสร้างพื้นฐาน
2) การเชื่อมต่อ
3) การให้ข้อมูล
4) ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
5) ความสะดวกสบาย
6) การออกแบบสำหรับทุกคน
7) การให้บริการ
8) ความสวยงาม

ซึ่งการประเมินดังกล่าวจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการขนส่งทางราง ความสามารถในการรองรับการใช้บริการของประชาชนได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเท่าเทียมในระบบรถไฟชานเมือง รถไฟระหว่างเมือง ตลอดจนระบบการเตินทางเชื่อมต่อรอบสถานีรถไฟชานเมือง (สายสีแดง)โดยกำหนดเริ่มลงสำรวจพื้นที่ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 เป็นต้นไป


นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังร่วมกันพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์ ณ สถานีกลางบางซื่อ ในกรณีย้ายสถานีปลายทางของขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์สายเหนือและ
สายตะวันออกเฉียงเหนือจากสถานีกรุงเทพมายังสถานีกลางบางซื่อ ประกอบด้วย

  1. การจัดระบบสัญจรโดยรอบพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ โดยมีการกำหนดการเดินทางเข้า-ออกสถานีกลางบางซื่อให้เป็นลักษณะเดินรถทางเดียว (One Way) และกำหนดจุดรับ-ส่ง (Drop Off) บริเวณด้านหน้าสถานีสำหรับผู้โดยสารขาออก และด้านหลังสถานีสำหรับผู้โดยสารขาเข้า รวมทั้งได้เตรียมพื้นที่จอดรถใต้ดินซึ่งสามารถรองรับรถยนต์ได้กว่า 1,600 คัน เพื่อรองรับการจอดรถยนต์ส่วนบุคคล
  2. การจัดระบบหมุนเวียนผู้โดยสาร แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออก (Departure) (ลูกศรสีเหลือง) โดยผู้โดยสารสามารถใช้ประตูทางเข้าได้จำนวน 6 ประตู ประกอบด้วย ประตูทางเข้าด้านหน้าสถานีจำนวน
    4 ประตู สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจุดรับ-ส่ง (Drop Off) บริเวณด้านหน้าของสถานี และสำหรับผู้โดยสารขาออกที่เดินทางมาจากสถานีชุมทางบางซื่อ (เดิม) สามารถใช้ประตูทางออกด้านหลังสถานีกลางบางซื่อได้จำนวน 2 ประตู ได้แก่ ประตูทางออก 1 และประตูทางออก 4 เพื่อเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ
    ได้อย่างสะดวก โดยมีจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้จำนวน 2 จุด ได้แก่ จุดจำหน่ายตั๋วสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ซึ่งอยู่บริเวณทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อ และจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจุดรับ-ส่ง (Drop Off) บริเวณประตูทางเข้า 4 ด้านหน้าของสถานีกลางบางซื่อ และผู้โดยสารขาเข้า (Arrive) (ลูกศรสีส้ม) สามารถใช้บันไดเลื่อนหรือลิฟต์โดยสารลงจากชั้นชานชาลา 5 และ 6 มาสู่บริเวณพื้นที่ชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร (Ground Level) ซึ่งอยู่บริเวณทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อ โดยสามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่พื้นที่สำหรับผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสารแล้ว (Paid Area) ของรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) หรือเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ได้อย่างสะดวกและสามารถใช้ประตูทางออกเพื่อไปจุดจอดรับ-ส่ง (Pick Up & Drop Off) บริเวณด้านหลังสถานี หรือไปสถานีชุมทางบางซื่อ จำนวน 2 ประตู ได้แก่ ประตูทางออก 1 และประตูทางออก 4 ทั้งนี้ ประตูทางออก 2 และ 3 เป็นทางเข้าออกสำหรับประชาชนผู้มารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด 19 เท่านั้น
  3. ความพร้อมด้านขบวนรถ มีการการปรับปรุงห้องน้ำภายในขบวนรถ การลดมลพิษจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลที่มาจากหัวรถจักรโดยให้มีการทำเครื่องหมายกำหนดตำแหน่งจุดจอดของรถไฟให้ชัดเจน เพื่อให้พนักงานขับรถไฟจอดรถไฟตรงกับช่องดูดควันของสถานี เพื่อช่วยระบายควันจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. ความพร้อมด้านสิ่งอ้านวยความสะดวกภายในสถานีกลางบางซื่อ มีการปรับปรุงระบบป้ายบอกทางภายในสถานีกลางบางซื่อให้สอดคล้องกับผังการสัญจรภายในสถานีฯ เพิ่มป้ายบอกทางในระบบการเดินทางที่ยังไม่มีให้บริการในปัจจุบัน ได้แก่ ระบบรถไฟความเร็วสูง (HSR) และระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) เพื่อป้องกันความสับสนแก่ประชาชน ปรับปรุงป้ายสัญลักษณ์ ป้ายบอกทางบางจุดที่มีการติดตั้งไม่สอดคล้องกับเส้นทางสัญจรภายในสถานี เช่น ป้ายบอกทางออกเพื่อลงบันได บันไดเลื่อน หรือลิฟต์ ติดตั้งป้ายบอกทางเพื่อชื่อมต่อการเดินทาง การปรับปรุงระบบการสื่อสารและเสียงประกาศภายในสถานีกลางบางซื่อการจัดเตรียมเก้าอี้ส้าหรับผู้โดยสารนั่งพักคอย

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบแนวทางการบริหารจัดการเบื้องต้นดังกล่าว และเห็นควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทยนำความเห็นที่ประชุมไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ และจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ และผู้ที่ไม่เห็นด้วย รวมทั้งจัดทำข้อมูลการปรับปรุงห้องสุขาบนขบวนรถไฟให้เป็นระบบปิด ผลทดสอบการดูดควันในชั้นชานชาลา ความคืบหน้าการปรับปรุงป้ายบอกทาง และทิศทางการหมุนเวียนของผู้โดยสารภายในสถานีและบริเวณใกล้เคียง เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมในครั้งต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]