ลงพื้นที่เช็กลิสต์ 8 ข้อ เปิดสถานีกลางบางซื่อ-ใช้งานหัวลำโพง 16 ม.ค.

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค. – คณะอนุกรรมการฯ เตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการสายสีแดง และรูปแบบการเดินรถไฟเข้าหัวลำโพง ประชุมนัดแรก เตรียมลุยลงพื้นที่เพื่อทำเช็กลิสต์ 8 ข้อ 16 มกราคมนี้

นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมหัวหน้ากลุ่มด้านภารกิจขนส่ง เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านประเมินคุณภาพสถานีรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อและรูปแบบการเดินรถไฟเข้าสู่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การรถไฟแห่งประเทศไทย, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย, สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม, บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด, บริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด, สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ, สภาวิศวกร, สภาองค์กรของผู้บริโภค และสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมเป็นอนุกรรมการเข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom Cloud meetings


นายสรพงศ์ กล่าวว่า ในคราวการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางชื่อ ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินการจัดทำเซ็คลิสต์ (Checklist) ร่วมกับผู้เชี่ยวขาญและสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องเพื่อให้คำแนะนำ เพื่อตรวจสอบผลกระทบกับประชาชน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อของประชาชนและการขนส่งสินค้า การอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและความปลอดภัยในการเดินรถ ซึ่ง ขร. ได้ดำเนินการจัดทำหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ โดยอ้างอิงจากมาตรฐานสากลต่างประเทศ ได้แก่ EN13816 CoMET and Nova IRS RSI NRPS ประกอบไปด้วย 8 ด้าน ดังนี้
1) โครงสร้างพื้นฐาน
2) การเชื่อมต่อ
3) การให้ข้อมูล
4) ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัย
5) ความสะดวกสบาย
6) การออกแบบสำหรับทุกคน
7) การให้บริการ
8) ความสวยงาม

ซึ่งการประเมินดังกล่าวจะเป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการขนส่งทางราง ความสามารถในการรองรับการใช้บริการของประชาชนได้อย่างสะดวก ปลอดภัย และเท่าเทียมในระบบรถไฟชานเมือง รถไฟระหว่างเมือง ตลอดจนระบบการเตินทางเชื่อมต่อรอบสถานีรถไฟชานเมือง (สายสีแดง)โดยกำหนดเริ่มลงสำรวจพื้นที่ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 เป็นต้นไป


นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังร่วมกันพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์ ณ สถานีกลางบางซื่อ ในกรณีย้ายสถานีปลายทางของขบวนรถไฟเชิงพาณิชย์สายเหนือและ
สายตะวันออกเฉียงเหนือจากสถานีกรุงเทพมายังสถานีกลางบางซื่อ ประกอบด้วย

  1. การจัดระบบสัญจรโดยรอบพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ โดยมีการกำหนดการเดินทางเข้า-ออกสถานีกลางบางซื่อให้เป็นลักษณะเดินรถทางเดียว (One Way) และกำหนดจุดรับ-ส่ง (Drop Off) บริเวณด้านหน้าสถานีสำหรับผู้โดยสารขาออก และด้านหลังสถานีสำหรับผู้โดยสารขาเข้า รวมทั้งได้เตรียมพื้นที่จอดรถใต้ดินซึ่งสามารถรองรับรถยนต์ได้กว่า 1,600 คัน เพื่อรองรับการจอดรถยนต์ส่วนบุคคล
  2. การจัดระบบหมุนเวียนผู้โดยสาร แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออก (Departure) (ลูกศรสีเหลือง) โดยผู้โดยสารสามารถใช้ประตูทางเข้าได้จำนวน 6 ประตู ประกอบด้วย ประตูทางเข้าด้านหน้าสถานีจำนวน
    4 ประตู สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจุดรับ-ส่ง (Drop Off) บริเวณด้านหน้าของสถานี และสำหรับผู้โดยสารขาออกที่เดินทางมาจากสถานีชุมทางบางซื่อ (เดิม) สามารถใช้ประตูทางออกด้านหลังสถานีกลางบางซื่อได้จำนวน 2 ประตู ได้แก่ ประตูทางออก 1 และประตูทางออก 4 เพื่อเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ
    ได้อย่างสะดวก โดยมีจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้จำนวน 2 จุด ได้แก่ จุดจำหน่ายตั๋วสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ซึ่งอยู่บริเวณทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อ และจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจุดรับ-ส่ง (Drop Off) บริเวณประตูทางเข้า 4 ด้านหน้าของสถานีกลางบางซื่อ และผู้โดยสารขาเข้า (Arrive) (ลูกศรสีส้ม) สามารถใช้บันไดเลื่อนหรือลิฟต์โดยสารลงจากชั้นชานชาลา 5 และ 6 มาสู่บริเวณพื้นที่ชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร (Ground Level) ซึ่งอยู่บริเวณทิศใต้ของสถานีกลางบางซื่อ โดยสามารถเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่พื้นที่สำหรับผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสารแล้ว (Paid Area) ของรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) หรือเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ได้อย่างสะดวกและสามารถใช้ประตูทางออกเพื่อไปจุดจอดรับ-ส่ง (Pick Up & Drop Off) บริเวณด้านหลังสถานี หรือไปสถานีชุมทางบางซื่อ จำนวน 2 ประตู ได้แก่ ประตูทางออก 1 และประตูทางออก 4 ทั้งนี้ ประตูทางออก 2 และ 3 เป็นทางเข้าออกสำหรับประชาชนผู้มารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด 19 เท่านั้น
  3. ความพร้อมด้านขบวนรถ มีการการปรับปรุงห้องน้ำภายในขบวนรถ การลดมลพิษจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซลที่มาจากหัวรถจักรโดยให้มีการทำเครื่องหมายกำหนดตำแหน่งจุดจอดของรถไฟให้ชัดเจน เพื่อให้พนักงานขับรถไฟจอดรถไฟตรงกับช่องดูดควันของสถานี เพื่อช่วยระบายควันจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. ความพร้อมด้านสิ่งอ้านวยความสะดวกภายในสถานีกลางบางซื่อ มีการปรับปรุงระบบป้ายบอกทางภายในสถานีกลางบางซื่อให้สอดคล้องกับผังการสัญจรภายในสถานีฯ เพิ่มป้ายบอกทางในระบบการเดินทางที่ยังไม่มีให้บริการในปัจจุบัน ได้แก่ ระบบรถไฟความเร็วสูง (HSR) และระบบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) เพื่อป้องกันความสับสนแก่ประชาชน ปรับปรุงป้ายสัญลักษณ์ ป้ายบอกทางบางจุดที่มีการติดตั้งไม่สอดคล้องกับเส้นทางสัญจรภายในสถานี เช่น ป้ายบอกทางออกเพื่อลงบันได บันไดเลื่อน หรือลิฟต์ ติดตั้งป้ายบอกทางเพื่อชื่อมต่อการเดินทาง การปรับปรุงระบบการสื่อสารและเสียงประกาศภายในสถานีกลางบางซื่อการจัดเตรียมเก้าอี้ส้าหรับผู้โดยสารนั่งพักคอย

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบแนวทางการบริหารจัดการเบื้องต้นดังกล่าว และเห็นควรให้การรถไฟแห่งประเทศไทยนำความเห็นที่ประชุมไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ และจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ และผู้ที่ไม่เห็นด้วย รวมทั้งจัดทำข้อมูลการปรับปรุงห้องสุขาบนขบวนรถไฟให้เป็นระบบปิด ผลทดสอบการดูดควันในชั้นชานชาลา ความคืบหน้าการปรับปรุงป้ายบอกทาง และทิศทางการหมุนเวียนของผู้โดยสารภายในสถานีและบริเวณใกล้เคียง เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมในครั้งต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]