กรุงเทพฯ 23 ธ.ค.-ผู้บริหารหอการค้าไทยยกทีมประชุมร่วมเอกชน ชลบุรี – ระยองเพื่อรับฟังเสียงผู้ประกอบการในพื้นที่เพื่อเตรียมเสนอขยายพื้นที่ Sandbox
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารหอการค้าฯ เดินทางเยี่ยมหอการค้าจังหวัดชลบุรี และหอการค้าจังหวัดระยอง ระหว่างวันที่ 21 – 22 ธันวาคม ณ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และได้มีการจัดประชุมหารือถึงมาตรการต่าง ๆ ในการฟื้นฟูและการเตรียมความพร้อมของพื้นที่รองรับการเปิดประเทศ แม้ว่า ศบค. จะมีการปรับแผนชะลอการเดินทางของคนที่จะเข้าประเทศ เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส สายพันธุ์โอมิครอน แต่โดยภาพรวมสถานการณ์การระบาดภายในประเทศยังมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ โดยมีผู้ติดเชื้อรายวันน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ประชุมมีการสะท้อนถึงผลกระทบจากการมีคำสั่งกะทันหันเมื่อวานนี้ ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจริง ๆ แล้วการระบาดครั้งนี้ เป็นการกลายพันธุ์ของเชื้อเดิมและ WHO ก็ได้มีคำแนะนำว่าขอให้แต่ละประเทศเพิ่มการระมัดระวัง แต่ไม่เห็นด้วยกับการล็อคดาวน์ ตามที่หลายประเทศได้ดำเนินการไปแล้วที่ประชุม ได้รับฟังความเห็นและข้อเสนอของทั้งภาครัฐ และภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ หอการค้าไทยเห็นถึงศักยภาพ ความพร้อมของพื้นที่ มาตรการการป้องกันการแพร่ระบาด รวมถึงระบบสาธารณสุขโดยเฉพาะจำนวนเตียงที่มีพร้อมรับมือหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน นอกจากนั้นผู้ประกอบการในพื้นที่ยังได้ให้ความร่วมมือในการขึ้นทะเบียนทั้งมาตรฐาน SHA และ SHA+ รวมถึง SHA extra plus ด้วย ซึ่งสามารถรองรับนักเดินทางในประเทศและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้ด้วยความปลอดภัยและมั่นใจ พร้อมกันนี้ยังมีการนำเสนอแนวทางในการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยว รวมถึงได้หารือถึงแนวทางการขับเคลื่อนโมเดล อารมณ์ดี มีความสุข (Happy Model) เพื่อช่วยเสริมการท่องเที่ยวระดับโลกในพื้นที่ให้มีคุณภาพสูงขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการหารือ เพื่อหาทางจัดการความเสี่ยงของการแพร่รระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้มีการเสนอให้พื้นที่ พัทยา ชลบุรี ระยอง ซึ่งอาจจะรวมถึงกรุงเทพและจังหวัดที่มีความพร้อมทั้งการฉีดวัคซีนและจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วย ให้เป็นพื้นที่ Sandbox ลักษณะเดียวกันกับจังหวัดภูเก็ต โดยที่ประชุมได้ขอให้รัฐบาลพิจารณาเปิดระบบลงทะเบียน Thailand Pass ต่อไป และ ปรับปรุงระบบ test & go ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักเดินทางที่ได้วางแผนล่วงหน้ามาแล้ว ดังนั้นเพื่อรักษาการจ้างงานซึ่งจะช่วยประคองผู้ประกอบการใน Supply Chain สามารถดำเนินธุรกิจไปได้ โดยเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการและสมาคมด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างเห็นตรงกันว่า ควรเร่งพิจารณาและหามาตรการป้องกันโอมิครอนที่ชัดเจน และนำมาตรการ Test & Go กลับมาใช้โดยเร็ว
ทั้งนี้ ภาคเอกชนพร้อมที่จะร่วมมือทำตามมาตรการที่ยกระดับ พร้อมตรวจตราให้สมาชิกปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัดด้วย เนื่องจากช่วงเวลานี้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวพึ่งเริ่มฟื้นตัว และมีความหวังจากนักท่องเที่ยวที่ทยอยเข้าประเทศผ่านมาตรการในช่วง High Season นี้ด้วย โดยหอการค้าไทยจะสะท้อนข้อมูลและข้อเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กระทรวงท่องเที่ยวฯ ททท. รวมถึง ภาคสาธารณสุข ให้รับทราบและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งด่วน โดยไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีความเข้มแข็งด้านสารธารณสุขระดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจและความปลอดภัยของสุขภาพประชาชนควบคู่กัน และหาแนวทางที่ทุกภาคส่วนยอมรับ ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อไม่ให้กระทบเศรษฐกิจในวงกว้างต่อไป.-สำนักข่าวไทย