คนละครึ่ง-ส่งออก ทำให้สถานการณ์ SME ไตรมาส 3 ดีขึ้นต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค. – สสว. เผยสถานการณ์ SME ไตรมาส 3 สัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจาก GDP SME ขยายตัวร้อยละ 0.2 หรือมีมูลค่า 1,356,720 ล้านบาท ผลจากโครงการคนละครึ่งเฟส 3 และปัจจัยเสริมจากการส่งออกที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่มาตรการช่วยเหลือ SME เดินหน้าส่งผลสำเร็จ ทั้งการสนับสนุน SME เข้าถึงตลาดภาครัฐที่สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการกว่า 5.5 แสนล้านบาท


นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ดำเนินการวิเคราะห์สถานการณ์ SMEs ไตรมาส 3/2564 (ก.ค.-ก.ย.) พบว่า GDP SME ยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2564 (เม.ย.-มิ.ย.) ที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 0.2 หรือมีมูลค่ารวม 1,356,720 ล้านบาท โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.5 ของ GDP รวมของประเทศ และเมื่อพิจารณา GDP ตามขนาดวิสาหกิจ พบว่า วิสาหกิจรายย่อย (Micro) มีการขยายตัวสูงสุดคือร้อยละ 8.0 รองลงมาคือ วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) ร้อยละ 2.2 ส่วนวิสาหกิจขนาดย่อม (Small) หดตัวลงร้อยละ 3.8
“การฟื้นตัวของ SME ที่เริ่มมาตั้งแต่ไตรมาส 2 และต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 3 นี้ มีผลสำคัญมาจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐคือโครงการคนละครึ่งเฟส 3 ที่กลับมาดำเนินการอีกครั้งในไตรมาสนี้จนถึงสิ้นปี 2564 นอกจากนี้ยังมาจากความสามารถในการปรับตัวของผู้ประกอบการโดยเฉพาะในกลุ่มขนาดกลาง และมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคส่งออกที่กลับมาเติบโต รวมถึงมาตรการต่างๆ ของภาครัฐที่ให้ความช่วยเหลือ SME ได้เริ่มส่งผลอย่างต่อเนื่อง” ผอ.สสว. กล่าว

เมื่อพิจารณาถึงตัวเลข SME ทั่วประเทศ ปัจจุบันมีจำนวน 3,176,055 ราย เป็นกลุ่มวิสาหกิจรายย่อย (Micro) มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 85.47 รองลงมาคือวิสาหกิจขนาดย่อม (Small) คิดเป็นร้อยละ 13.18 และวิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) คิดเป็นร้อยละ 1.35 โดย SME ยังคงเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบให้ขีดความสามารถของ SME ลดลง รัฐบาลจึงได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยพลิกฟื้นหรือฟื้นฟูรวมทั้งสร้างโอกาสใหม่ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยมีมาตรการสำคัญที่ สสว. ร่วมกับกรมบัญชีกลาง สนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2563 และเริ่มส่งผลตั้งแต่ต้นปี 2564 เป็นต้นมา


โดย สสว. ได้พัฒนาระบบขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ SME เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ www.thaismegp.com เพื่อเป็นช่องทางหลักให้ SME ที่ต้องการเข้าถึงตลาดภาครัฐ ได้รับสิทธิประโยชน์ที่ช่วยให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการอื่นๆ ได้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ SME อย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ขึ้นทะเบียนในระบบรวม 115,200 ราย มีรายการสินค้าและบริการ รวม 898,000 รายการ (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2564) ที่สำคัญผู้ประกอบที่ขึ้นทะเบียน ได้รับการจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานภาครัฐคิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 551,306 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564).-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร