กรุงเทพฯ 17 ธ.ค. – ตลท. เสนอคลัง พิจารณาอัตราภาษี และการเลือกเก็บภาษีจากการซื้อขายแต่ละครั้ง (transaction) ยอมรับภาษีขายหุ้นกระทบนักลงทุนเทรดดิ้งทำกำไรระยะสั้น
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีกรณีกระทรวงการคลังเตรียมจัดเก็บภาษีซื้อขายขายหุ้น (Transacion Tax) ว่า ทาง ตลท. มีข้อเสนอให้ทางภาครัฐพิจารณาใน 2 ประเด็น คือ จำนวน transaction ที่จะเริ่มเก็บภาษี จะทำอย่างไรให้กระทบกับนักลงทุนให้เหมาะสม เนื่องจากหากเก็บตามปริมาณการเทรด หรือหลักเกณฑ์บางอย่าง จะสามารถควบคุมไม่ไห้กระทบกับปริมาณนักลงทุนได้มาก ส่วนอีกประเด็นคือ อัตราภาษีที่จะใช้ หากเป็นอัตราภาษีที่เหมาะสม และไม่ทำให้ความสามารรถการแข่งขันของตลาดทุนไทย แตกต่างจากตลาดทุนอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่งของเราหรือที่เราเป็นมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเสนอแนวทางกับคลังมาโดยตลอด ส่วนเรื่องอัตราการเก็บภาษี กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณา
นายภากร ยอมรับว่าการเก็บภาษีซื้อขายหุ้น ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ย่อมส่งผลกระทบกับนักลงทุนบางประเภท โดยเฉพากลุ่มเทรดดิ้ง ที่หวังกำไรในระยะสั้น เพราะต้องรอสินทรัพย์ให้เคลื่อนไหวมากกว่าเดิมจึงจะมีการซื้อขาย คาดว่าจะกระทบต่อปริมาณการซื้อขายของตลาดแน่นอน จากปัจจุบันที่ตลาดมีมูลค่าการซื้อขายที่ราว 9 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งยังคงสูงเป็นอับดับ 1 ในภูมิภาคเอเซียน
ส่วนที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าการเก็บภาษีซื้อขายหุ้นจะทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในต่างประเทศแทน นายภากร มองว่าน่าจะเป็นประเด็นรอง เนื่องจากปัจจุบันนักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศค่อนข้างมากอยู่แล้ว ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงเรื่อยๆ จึงอยากฝากว่า ให้ดูต้นทุนเทียบกับต้นทุนการไปลงทุนในต่างประเทศด้วยเสมอ ปัจจุบัน การลงทุนในต่างประเทศทำได้หลายวิธีเช่น ซื้อกองทุนรวม ซื้อกองทุน อีทีเอฟ หรือ ลงทุนผ่าน บล. ต่างๆ ให้ไปเปิดบัญชีในต่างประเทศ ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกัน ในปีหน้าทาง ตลท. มีการส่งเสริมให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ไปลงทุนในต่างประเทศได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลายประเทศได้มีการจัดเก็บภาษีซื้อขายหุ้น ประเทศที่มีอัตราภาษีใกล้เคียงไทย คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม เกาหลี และบางประเทศเพิ่งเริ่มเก็บภาษีซื้อขายหุ้น (Transaction tax) ได้ไม่นาน อาทิ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ดังนั้นการที่รัฐบาลไทยประกาศเก็บภาษีซื้อขายหุ้น ก็จะคล้ายกับนโยบายในหลายๆประเทศที่ต้องการเงินภาษีมากระตุ้นเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย