รมว.คมนาคม เปิดประชุม “รมต.” ด้านขนส่งเอเชีย-แปซิฟิกฯ

กรุงเทพฯ16 ธ.ค.- “ศักดิ์สยาม” ร่วมประชุม รัฐมนตรีด้านการขนส่งเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 4 โชว์แผนงานคมนาคมไทย เชื่อมโยงภูมิภาคอย่างยั่งยืน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการขนส่งเอสแคป ครั้งที่ 4 (Fourth Ministerial Conference on Transport) ร่วมกับ นาง Armida Salsiah Alisjahbana เลขาธิการบริหารเอสแคป ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ


นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคสำหรับการพัฒนาด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ค.ศ. 2022 – 2026 มีความเชื่อมโยงกับการดำเนินนโยบายที่สำคัญของไทยเพื่อมุ่งสู่การขนส่งที่ยั่งยืน โดยได้นำเสนอนโยบายที่สำคัญของไทย เช่น การสร้างความเชื่อมโยงในระดับภูมิภาคผ่านโครงการ MR-MAP การพัฒนาระบบรถไฟรางคู่และระบบการขนส่งมวลชนสาธารณะในเขตกรุงเทพและปริมณฑล การให้ความสำคัญกับระบบดิจิทัลด้านการขนส่งผ่านการพัฒนาระบบ National Single Window เพื่อเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการขนส่งทางทะเล การพัฒนาระบบการจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-flow) รวมถึงการผลักดันอุตสาหกรรมการให้บริการยานพาหนะผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือ Ride-hailing

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอเกี่ยวกับนโยบายและแผนงานด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดทำแผนปฏิบัติการการตั้งเป้าหมายการมีส่วนร่วมของประเทศภาคการขนส่งเพื่อตั้งเป้าสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนการมุ่งสู่การพัฒนาด้านความปลอดภัยทางถนนผ่านโครงการที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนานวัตกรรมแผ่นยางพาราครอบแบริเออร์ (Rubber Fender Barrier) การยกระดับมาตรฐานของโครงข่ายถนนทางหลวงและทางหลวงชนบทผ่านการออกกฎกระทรวงกำหนดความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบท และการเสริมสร้างความเข้มแข็งของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) ด้วยการพัฒนาระบบการประมูลป้ายทะเบียนรถยนต์แบบพิเศษซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน


นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ,นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ,นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ยังได้พบหารือกับนาง Armida Salsiah Alisjahbana เลขาธิการบริหารเอสแคป เพื่อแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับประเด็นที่จะมีการหารือในการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการขนส่งเอสแคป ครั้งที่ 4 รวมถึงได้นำเสนอนโยบายด้านการขนส่งที่สำคัญของไทยที่สอดคล้องกับร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคสำหรับการพัฒนาด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (ค.ศ. 2022 – 2026) โดยเฉพาะในด้านการสร้างความเชื่อมโยงการขนส่ง ด้านความปลอดภัยทางถนน และด้านการขนส่งคาร์บอนต่ำ รวมถึงแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างความร่วมมือกับเอสแคปในอนาคตเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาระบบการขนส่งที่ยั่งยืนของไทย

ทั้งนี้การประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการขนส่งเอสแคป ครั้งที่ 4 (Fourth Ministerial Conference on Transport) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 17 ธันวาคม 2564 โดยแบ่งการประชุมออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ 1) การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูง ระหว่างวันที่ 14 – 15 ธันวาคม 2564 และ 2) การประชุมระดับรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 16 – 17 ธันวาคม 2564 จัดขึ้นเพื่อหารือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศสมาชิกเอสแคปในการพัฒนาโครงการด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรี ได้มีการจัดประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรี (Ministerial Roundtable)เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินการตามร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคสำหรับการพัฒนาด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (ค.ศ. 2022 – 2026) การกล่าวถ้อยแถลงเชิงนโยบายของประเทศสมาชิก ด้านการพัฒนาข้อริเริ่มด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านความร่วมมือในระดับภูมิภาค รวมไปถึงการร่วมรับรองร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีด้านการพัฒนาการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก รวมถึงร่างแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคสำหรับการพัฒนาด้านการขนส่งที่ยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (ค.ศ. 2022 – 2026) .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

เชียงรายพบสารหนูเกินมาตรฐานใน “น้ำกก” คาดจากเหมืองเมียนมา

สำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ เชียงราย ได้รับร้องเรียนว่า “น้ำกก” มีสีขุ่น เมื่อนำไปตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานหลายเท่า กระทบสุขภาพประชาชน คาดมาจากเหมืองแร่ทองคำในเมียนมา ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมด่วน

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน