กรุงเทพฯ 13 ธ.ค.-การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ฉลองครบรอบ 49 ปี ภายใต้คอนเซ็ปต์ “49 ปี กนอ. เปลี่ยนเพื่ออนาคต…..สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน : Transform to the Sustainable Future” พร้อมประกาศเดินหน้าปี 2565 สร้างมิติใหม่ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม และเป็นศูนย์กลางฐานการผลิตของภูมิภาคอาเซียน
นายนรินทร์ กัลยาณมิตร ประธานกรรมการ กนอ. ระบุว่า ภารกิจหลักของ กนอ.คือ การพัฒนา จัดตั้ง และบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม สร้างฐานการผลิตเพื่อรองรับการลงทุนด้านอุตสาหกรรมของประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากร มุ่งเน้นนวัตกรรมนำการเปลี่ยนแปลง และสร้างการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน เพื่อให้เกิดการเติบโตในทุกภาคส่วนของประเทศ ภายใต้การดำเนินงานขององค์กรเพื่อให้เป็นรัฐวิสาหกิจชั้นนำของประเทศ จำเป็นต้องใช้ศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวนโยบาย BCG
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า ปัจจุบันมีนิคมอุตสาหกรรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 65 แห่ง 16 จังหวัด มีพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ประมาณ 178,891 ไร่ มูลค่าเงินลงทุนสะสม 5.27 ล้านล้านบาท โดยมีนักลงทุนทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศร่วมลงทุนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และสำหรับการขับเคลื่อน กนอ.ในอนาคต เน้นเร่งดึงดูดการลงทุน หาช่องทางธุรกิจใหม่ กำหนดแผนบริหารความเสี่ยง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ แผนการพัฒนาศักยภาพบุคลากร กนอ. และยังคงให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีโครงการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ได้เร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญาร่วมลงทุนได้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 และ โครงการนิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค มีการลงนามในสัญญาก่อสร้างและควบคุมงานก่อสร้างกับบริษัทผู้รับจ้าง เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 36 เดือน และจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2567
“ทิศทางการดำเนินงานในปี 2565 นอกจาก กนอ.จะให้ความสำคัญกับการเร่งดึงดูดการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ผ่านมาตรการทางการตลาดและมาตรการเชิงรุกให้มากขึ้นแล้ว กนอ.ยังให้ความสำคัญกับการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ โดยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม อาทิ โครงการ Facility 4.0 ในการนำเอาเทคโนโลยีมาพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม การทำ Digital Twin ระบบบำบัดน้ำเสีย Smart Meter การพัฒนาศักยภาพบุคลากร กนอ. โดยเฉพาะด้าน IT Digital รวมถึง กนอ.จะแสวงหาช่องทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ สร้างรายได้ในระยะยาวอีกด้วย”นายวีริศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
