ชลบุรี 9 ธ.ค. – สัตวแพทย์ปรับแผนการรักษา “น้องฟ้าใส” ลูกช้างป่าที่บาดเจ็บจากการถูกบ่วงรัดและยิงขา คาดจะผ่าตัดนำกระสุนที่ฝังออกบางส่วน ร่วมกับปล่อยให้กล้ามเนื้อดันออกมาเอง แม้จะช้า แต่ลดความเสี่ยงหลายอย่าง เนื่องจากลูกช้างอายุน้อย เจ้าของสวนนงนุช พัทยายินดีดูแลอย่างไม่จำกัดเวลา
นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุช พัทยากล่าวว่า “พังฟ้าใส” ลูกช้างป่าเพศเมีย อายุ 3 เดือนที่บาดเจ็บจากการถูกบ่วงรัดและถูกยิง อาการดีขึ้น ร่าเริง และปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ดี นายสัตวแพทย์ของสวนนงนุชและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชร่วมกันดูแล ทำแผลทุกวัน ซึ่งการทำแผลแต่ละครั้ง น้องฟ้าใสจะร้องเนื่องจากเจ็บแผล จึงสงสารมาก
ล่าสุดหมอแจ้งผลการตรวจเลือดพบว่า ภาวะไตวายเฉียบพลันซึ่งพบเมื่อแรกเคลื่อนย้ายจากอุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น จ. จันทบุรีมายังสวนนงนุชนั้น ค่าไตเป็นปกติ ภาวะเลือดจางดีขึ้น แต่ต้องประเมินให้แน่ใจอีกครั้งว่า แข็งแรงพอที่จะรับยาสลบเพื่อผ่าตัดนำกระสุนที่ฝังอยู่ประมาณ 8 นัดออกได้ โดยจะชัดเจนใน 3-4 วันนี้
นายกัมพลกล่าวต่อว่า ให้เจ้าหน้าที่รีดน้ำนมของช้างแม่ลูกอ่อนในสวนนงนุชมาให้น้องฟ้าใสกินเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ขณะนี้มีแม่ช้างที่ให้นมได้ 2 เชือก โดยเชือกหนึ่งน้ำนมมีน้อย หมอให้ยากระตุ้นการสร้างน้ำนม และมีเชือกหนึ่งใกล้ตกลูก ก็จะให้รีดนมมาให้ฟ้าใสกินด้วย
ทั้งนี้จัดเจ้าหน้าที่ 7 คนผลัดเปลี่ยนเฝ้าดูแลลูกช้างตลอดเวลา ยินดีจะให้น้องฟ้าใสอยู่ที่สวนนงนุชนานเท่าไรก็ได้ ไม่จำกัดเวลา ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
นายสัตวแพทย์เผด็จ ศิริดำรง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวานและสัตวแพทย์ประจำสวนนงนุชกล่าวว่า น้องฟ้าใสกินนมได้เยอะขึ้น น้ำหนักเมื่อแรกมาถึงสวนนงนุช 95 กิโลกรัม ขณะนี้น่าจะประมาณ 100 กิโลกรัมแล้ว ก่อนหน้านี้รักษาภาวะไตวายโดยให้ยาทางน้ำเกลือ ขณะนี้งดแล้ว
สำหรับการรักษาแผลที่ขาหน้าขวาซึ่งถูกบ่วงรัดจนต้องตัดปลายขาออก ยังคงต้องขูดเนื้อตาย แล้วทำเลเซอร์เพื่อกระตุ้นการสร้างหนัง มีหนังเกิดใหม่ยาง 2 มิลลิเมตรจึงอีกนานกว่าหนังจะหุ้มสนิท โดยประดิษฐ์ “รองเท้าเสริมส้น” จากโฟมเพื่อใช้พยุงขาข้างนี้
ส่วนขาหน้าซ้ายซึ่งถูกยิง นำผ้าก๊อซยัดเข้าไปทำความสะอาดทุกวัน คาดว่า มีกระสุนประมาณ 8 นัด จากเดิมจะผ่าตัดเพื่อนำกระสุนออกทั้งหมด ซึ่งต้องให้ยาสลบ แต่ลูกช้างยังเล็กมาก ไม่ต้องการให้ยาสลบเพื่อผ่าตัดเป็นเวลานาน รวมทั้งระหว่างผ่าตัดอาจไปถูกกล้ามเนื้อและเส้นเลือดเสียหาย จึงปรับแผนการรักษา โดยผ่าตัดนำกระสุนออกจำนวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือจะให้กล้ามเนื้อดันออกมาเอง ซึ่งอาจจะช้า แต่มั่นใจว่า เป็นวิธีที่ปลอดภัย.- สำนักข่าวไทย