กาญจนบุรี 8 ธ.ค. -กรมอุทยานฯ เข้าแจ้งเตือนประชาชน เปิดลานกางเต็นท์และให้บริการเช่าเต็นท์เพื่อกิจการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ โดยมิได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสน
นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง ) เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณและผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านบนเขาแก่งเรียง ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรีเดินทางไปยัง “ไร่ย่าแย้ม” เนื้อที่ 44 ไร่ ซึ่งครอบครองโดยนางแย้ม พันธวงศ์ อายุ 79 ปี เนื้อที่ 44 ไร่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ซึ่งพื้นที่นี้นางแย้มแจ้งการครอบครองและได้รับการผ่อนปรนให้อยู่อาศัยทำกินในเขตอุทยานแห่งชาติ ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541อยู่ในแปลงพิสูจน์สิทธิ์ (CN3) ตามบัญชีรายชื่อลำดับที่ 132 ซึ่งเป็นการผ่อนปรนเพื่อช่วยเหลือราษฎรในท้องถิ่นที่ได้ครอบครองและอยู่อาศัยทำกินก่อนประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ หรือหลังประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ แต่ต้องอยู่อาศัยและทำกินก่อนปีพ.ศ. 2557 รวมทั้งต้องทำประโยชน์อย่างต่อเนื่อง และต้องไม่มีที่ดินทำกินที่อื่นอีกด้วย
นายนิพนธ์แจ้งแก่นางแย้มว่า พื้นที่ผ่อนปรนในเขตอุทยานแห่งชาติ สามารถอยู่อาศัยและทำการเกษตรได้ แต่ไม่สามารถนำไปทำกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์เช่น ทำลานกางเต็นท์เพื่อกิจการท่องเที่ยวได้ หากกระทำจะมีความผิดตามพ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ 2562 มาตรา 19(6 ) ห้ามมิให้ เข้าไปดำเนินกิจการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาตินั้น มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งต้องถูกประกาศคำสั่งขับไล่ หากฝ่าฝืน ไม่ยอมออกไปจากพื้นที่ มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000บาท หรือทั้งจำและปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 1 หมื่นบาท จนกว่าจะออกไปพ้นจากเขตอุทยานแห่งชาติ
นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า ตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ฉบับใหม่ 2562 เปิดโอกาสให้ประชาชนทำกิจการท่องเที่ยวที่เป็นประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติได้ โดยไม่ก่อเกิดความเสียหายอุทยานแห่งชาติ ซึ่งอนุบัญญัติของกฎหมายและระเบียบกำลังจะออกมาบังคับใช้ จากนั้นจึงจะสามารถขออนุญาตได้ หรือต้องประสานหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เพื่อขอให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณจัดทำเป็น “เขตบริการ” โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเสียก่อน ตลอดจนต้องได้รับความเห็นชอบผ่านการทำประชาคมจากชุมชน และประชาชนที่มีส่วนได้เสียด้วย จึงให้นางแย้มยุติการดำเนินกิจการลานกางเต็นท์จนกว่าจะขออนุญาตเป็นที่เรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย