คาดสิ้นปี 64 ยอดเคลม “เจอ จ่าย จบ” เกือบ 4 หมื่นล้าน

กรุงเทพฯ 18 พ.ย.- นายกสมาคมประกันวินาศภัยฯ คาดสิ้นปี 64 ยอดเคลมสินไหมทดแทน “เจอ จ่าย จบ” แตะ 40,000 ล้านบาท แนะทุกฝ่ายช่วยกันพยุงธุรกิจประกัน ไม่ให้กระทบเป็นลูกโซ่ อู่ซ่อมรถ รพ. แบงก์พันธมิตร เสนอ คปภ. ทบทวนห้ามยกเลิกกรมธรรม์โควิด-19


นายอานนท์  วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย แถลงเกี่ยวกับ “สถานการณ์วิกฤติจากการรับประกันภัยโควิด-19 แบบ เจอ จ่าย จบ”  ว่า ยอดจำหน่ายประกันโควิด-19 ณ 15 พ.ย.  เบี้ยประกันมูลค่า 1.2 แสนล้านบาท เมื่อมีผู้ป่วยติดเชื้อมากในช่วงที่ผ่านมา จึงมียอดเคลม 35,000 ล้านบาท นับว่ายอดเคลม  ต้องใช้เงินกองทุนสัดส่วนร้อยละ 26.5 นับว่าเร่ิมเสี่ยงมากขึ้น   และคาดว่าสิ้นปี 64  ยอดเคลมขอค่าสินไหมทดแทนแตะ  40,000 ล้านบาท ทำให้ยอดจ่ายเคลมต้องใช้เงินกองทุนสูงถึงร้อยละ 30.2 อาจมีความเสี่ยงมากขึ้น ต่อระบบธุรกิจประกันภัย

ธุรกิจประกันภัย ยอมรับว่า บริษัทประกันภัยหลายแห่ง ใช้เงินสะสมมา 30-40 ปี ขณะนี้ได้นำเงินกองทุนออกมาจ่ายชดเชยสินไหมภายใน 15 วัน ตามเกณฑ์กำหนด บางรายต้องกู้เงินมาจ่ายเคลม 5-6 พันล้านบาท หลายรายทุนหมดหน้าตักแล้ว  เนื่องจากยอดเคลมเพิ่มเท่าตัว 200-300 เท่าต่อวัน จึงทำให้การจ่ายเคลมล่าช้า แต่ยืนยันไม่เบี้ยวจ่ายเงินชดเชย  เนื่องจากเป็นความเสี่ยงอุบัติใหม่ ไม่มีประวัติการรับประกันในอดีต นับว่าเป็นความเสี่ยงมาก เมื่อยอดเคลมต้องใช้เงินกองทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หวั่นกระทบต่อธุรกิจ อู่ซ่อมรถ โรงพยาบาล ธนาคารพันธมิตร จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันดูแล สมาคมประกันวินาศภัยฯ หารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด


 นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย  กล่าวเพิ่มเติม ขอเสนอให้ คปภ.ทบทวนประกาศห้ามยกเลิกกรมธรรม์ “เจอ จ่าย จบ” เพราะอาจกระทบต่อธุรกิจประกันภัยในบางรายมีปัญหาได้หากทุนน้อย  แต่ธุรกิจประกันส่วนใหญ่ยังเข้มแข็งมั่นคง ขณะนี้ข้อมูลปัญหาโควิด ชัดเจนมากขึ้น มีปัญหาไวรัสกลายพันธ์ จึงต้องปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับปัญหาแพร่ระบาด หลายรายพร้อมนำเงินมาจ่ายเคลมให้ครบ  4 หมื่นล้านบาทในสิ้นปี 64 เพื่อรักษาในอนุญาตธุรกิจประกันเอาไว้ แต่ขอให้ ทบทวน ยกเลิกกรมธรรม์ เจอ จ่าย จบ เพื่อผ่อนคลาย หากการแพร่บาดเพิ่มอีกระลอก ยอมรับเอกชนบางรายอาจยื่นฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้พิจารณาการ ยกเลิกกรมธรรม์ เจอ จ่าย จบ เพื่อพยุงให้ธุรกิจประกันอยู่รอดวิกฤติในครั้งนี้

นายอานนท์  ยอมรับว่า ในช่วงปี 63 เริ่มต้นการแพร่ระบาดโดวิค-19 เพื่อจากทุกคนกลัวปัญหาการแพร่ระบาด จึงมียอดซื้อกรมธรรม์ 9 ล้านกรมธรรม์ มูลค่าเบี้ย 4,000 ล้านบาท สัดส่วนร้อยละ 90 ซื้อผ่านออนไลน์ จากนั้นในปี 64  ประกันภัยโควิด-19 ยังพุ่งต่อเนื่องถึง มิ.ย.64 มียอดขายสูงถึง  15 ล้านกรมธรรม์ บริษัทประกันจึงยุติการรับซื้อประกันภัยโควิด เพื่อบริหารและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากยอดติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่อง และยึดหลักรับประกันไม่เกินร้อยละ 10 ของความเสียหาย ยืนยันธุรกิจประกันภัยไม่ได้โลภ ไม่มีเจตนาเอาเปรียบผู้เอาประกัน ตามที่กระแสสังคมกล่าวอ้าง แต่ความเสียหายเพิ่ม 3 หมื่นเปอร์เซ็นต์ในวิกฤติครั้งนี้ ถือว่าหนักมาก   

โดยการคำนวณเบี้ยประกัน “เจอ จ่าย จบ”  หลังจากคำนวณ เบี้ยประกันแล้ว  ภาคเอกชนได้เสนออนุญาติจาก คปภ. ยอมรับว่า ประกันภัยในยุคโควิด-19 ระบบประกันจะมีข้อมูลน้อยมาก แต่ธุรกิจประกันยังออกกรมธรรม์ และประเมินความเสี่ยงไปด้วย เรียนรู้ไปด้วย   และต้องการแบ่งเบาภาระในการรักษาพยาบาลรักษาโควิด-19 นอกจากรัฐบาลดูแล อีกทั้งเมื่อรัฐบาลส่งเสริมธุรกรรมออนไลน์ จึงทำให้ยอดซื้อกรมธรรม์โควิด เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อรัฐบาลส่งเสริมให้ภาคธุรกิจออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยอย่างหลากหลาย รองรับปัญหาโควิด ธุรกิจประกันไม่ได้โลภมาก แต่เพื่อเข้ามาช่วย. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย

เครื่องบินโดยสาร อาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ตกในคาซัคสถาน

เครื่องบินโดยสารเอ็มบราเออร์ ของสายการบินอาเซอร์ไบจาน แอร์ไลน์ ที่บินจากอาเซอร์ไบจาน ไปยังประเทศรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุตกที่บริเวณใกล้กับเมืองอัคเทา ในคาซัคสถาน โดยมีผู้โดยสาร 62 คน และลูกเรือ 5 คน บนเครื่อง เจ้าหน้าที่คาซัคสถานกล่าวว่า มีผู้รอดชีวิต 28 ราย