fbpx

นักวิชาการหอการค้าไทยคาดเศรษฐกิจปีนี้โตแค่ร้อยละ 1.5

กรุงเทพฯ 18 พ.ย.- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ระบุเศรษฐกิจไทยปีนี้โตแค่ร้อยละ 1.5 จากมาตรการผ่อนคลายโควิดหนุนในช่วงไตรมาส 4 ประเมินปีหน้าโตได้แน่ร้อยละ 4.2 แต่ภาครัฐยังจำเป็นต้องใช้มาตรการด้านต่างๆ เสริมให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้


นายธนวรรธน์  พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เริ่มเข้าสู่การฟื้นตัว แต่จะเริ่มฟื้นตัวได้ชัดเจนในไตมาสที่ 2 ของปีหน้า หลังจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อปรับเพิ่มขึ้น แม้จะมีการคลายมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อเปิดเมือง และเปิดประเทศ ทำให้จะมีเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว ที่คาดว่าทั้งปีจะเข้ามาไทย 2 -3 แสนคน สร้างรายได้เข้าประเทศประมาณ 12,000 ล้านบาท และยังมีเม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งช้อปดีมีคืน /และคนละครึ่ง รวมทั้งรายได้จากภาคการส่งออกที่คาดว่าปีนี้ จะขยายตัวถึงร้อยละ 16.5 ทำให้เศรษฐกิจไทย จะฟื้นตัวตั้งแต่ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ขยายตัวได้ร้อยละ  2-3 และตลอดทั้งปีนี้ จะขยายตัวได้ร้อยละ 1.5 เท่านั้น

ส่วนในปีหน้า 2565 คาดว่า จะขยายตัวได้ร้อยละ  4.2 หรืออยู่ในกรอบร้อยละ  3.6-4.5 และขยายตัวดีขึ้นชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง จากภาคอุตสาหกรรม เริ่มกลับมาฟื้นตัว หลังจากการส่งออกในปี 2564 ขยายตัวต่อเนื่อง แม้ในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวเพียงร้อยละ  5.4 จากฐานสูง รวมทั้งภาคบริการที่โดดเด่นหลังจากเปิดประเทศ คาดว่า นักท่องเที่ยวจะเข้ามา 5 ล้านคน จะสร้างรายได้กว่า 3 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจ้างงานทั้งในภาคการผลิตและบริการ รวมทั้งราคาน้ำมันน่าจะทรงตัว 80-85 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล และเชื่อว่ารัฐจะตรึงราคาดีเซลที่ลิตรละ 30 บาทจนกว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว 


ทั้งนี้ ต้องติดตามปัญหาหนี้ครัวเรือน เพราะธุรกิจขนาดเล็กยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อ กระทบกับรายได้ของประชาชนฐานราก รวมทั้งภาครัฐ ควรเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยใช้เม็ดเงินอย่างน้อย 5 แสนล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก ตามข้อเรียกร้องของภาคเอกชน โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง เพิ่มเติมอีกคนละ 1,500 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสแรก รวมทั้งเร่งจ้างงาน และจัดซื้อจัดจ้างโครงการลงทุนภาครัฐ ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานการผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีขึ้นต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME

“บิ๊กโจ๊ก” ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม ปมโดนให้ออกจากราชการ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หอบหลักฐานยื่นคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมตำรวจ ขอให้เพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการ

เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลโรงงานย่านพระราม 2

เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเหตุสารเคมีรั่วไหลในโรงงานย่านพระราม 2 ควันสีขาวลอยโขมง เบื้องต้นพบเป็นสารไทโอยูเรีย

อุตุฯ เผยไทยตอนบนร้อนจัด แนะเลี่ยงทำงานในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง