กรุงเทพฯ 17 พ.ย. – รมว.คลัง ย้ำไม่ลดภาษีดีเซล เป็นหน้าที่ “กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง” ตรึงราคาที่ 30 บาท/ลิตร ตั้งเป้าจัดเก็บรายได้จากที่ดินราชพัสดุในปี 65 ที่ประมาณ 8,800 ล้านบาท หลังจากที่ปี 2564 จัดเก็บได้ 7,200 ล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ย้ำว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลตามข้อเรียกร้องกลุ่มรถบรรทุก โดยขณะนี้ยังมีกลไกของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะเข้าไปพยุงราคาน้ำมันให้อยู่ที่ระดับ 30 บาท/ลิตร ซึ่งเป็นระดับราคาที่เหมาะสม หากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีเงินเพียงพอ ก็ยังสามารถขยายกรอบการกู้เงินได้อีก เนื่องจากล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถกู้เงินเพิ่มเป็น 3 หมื่นล้านบาท จากเดิมเพดานกู้อยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท
“ราคาน้ำมันเป็นหน้าที่ของกองทุนน้ำมันฯ เป็นผู้ดูแล ซึ่งก็ยังมีกำลังเพียงพออยู่ เว้นแต่ว่าราคาน้ำมันจะพุ่งกระฉูดไป ค่อยมาว่ากันใหม่เรื่องการลดอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งแนวโน้มระยะต่อไปคาดว่าจะมีแนวโน้มปรับลดลงหลังพ้นหน้าหนาว เพราะมีการใช้พลังงานทางเลือกอื่นเพิ่มขึ้น ความต้องการใช้น้ำมันจากฟอสซิลลดลง” นายอาคม กล่าว
นายอาคม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานกับนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมมอบนโยบายแก่กรมธนารักษ์ โดยมีนายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์ พร้อมผู้บริหาร คอยให้การต้อนรับ
นายอาคม เปิดเผยว่า ได้มาติดตามงานของกรมธนารักษ์ เพราะอธิบดีกรมธนารักษ์เพิ่งจะมารับตำแหน่งใหม่ โดยได้มอบนโยบายการปฏิบัติงานในปี 2565 เพราะในปี 2565 ไทยเราจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค โดยให้กรมธนารักษ์เข้าไปดูความพร้อมของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเตรียมตัวรองรับการจัดประชุมเอเปค แต่ทั้งนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่ได้มีการเลือกสถานที่จัดการประชุม แต่ทางเราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม รวมทั้งโครงการที่ดินของกรมธนารักษ์ ที่ถนนแจ้งวัฒนะ และโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ ซึ่งจะเป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ใหญ่ที่สุดของไทย จากจำนวนห้องทั้งหมด 921 ห้อง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังเปิดเผยด้วยว่า อยากให้กรมธนารักษ์พัฒนารายได้ให้กับรัฐบาล เพราะปัจจุบันมีที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศประมาณ 12 ล้านไร่ ซึ่งในปี 2564 นี้จัดเก็บรายได้จากค่าเช่า ทั้งในส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ได้ 7,200 ล้านบาท ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยในปี 2565 ตั้งเป้าจัดเก็บรายได้จากที่ดินราชพัสดุประมาณ 8,800 ล้านบาท จึงจะให้กรมธนารักษ์เข้าไปดูว่าจะเพิ่มรายได้ได้อย่างไรบ้าง ซึ่งอาจจะมีการปรับขึ้นค่าเช่าถ้าจำเป็น นอกจากนี้ยังมีโครงการจัดสรรที่ดินให้กับผู้มีรายได้น้อยอีก 11,000 ราย ในปี 2565. – สำนักข่าวไทย