กมธ.ปราบโกง สั่งทำประชาคมเหมืองแร่สระโบสถ์ใหม่

ลพบุรี 14 พ.ย. – รองประธาน กมธ.ปราบโกง สั่งทำประชาคมเหมืองแร่สระโบสถ์มาใหม่ หลังมีข้อมูลอาจไม่โปร่งใส ด้านชาวบ้านคัดค้าน หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม


จากกรณีชาวบ้านหมู่ 3 ต.มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี กว่า 300 คน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนคัดค้านโครงการทำเหมืองแร่อุตสาหกรรมเพอร์ไลต์ ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.มหาโพธิ์ ตั้งแต่ต้นปี 2562 หวั่นกระทบกับวิถีชีวิต เป็นการทำลายผืนป่าที่สมบูรณ์ นอกจากนี้ การทำประชาคมของเหมืองแร่ยังไม่โปร่งใส ประชาชนในพื้นที่คัดค้าน ต้องการให้ยกเลิกการทำเหมืองสถานเดียว

ความคืบหน้าวันนี้ (16 พ.ย.) ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) มหาโพธิ อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือถึงผู้ที่เกี่ยวข้องให้เข้าร่วมกับคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ในการพูดคุยเพื่อรับฟังข้อเท็จจริง และความคืบหน้าในการดำเนินการออกประทานบัตรทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม ชนิดหินเพอร์ไลต์ ให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 3 ต.มหาโพธิ ได้ยื่นหนังสือค้านการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม ชนิดหินเพอร์ไลต์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม เนื่องจากภูเขาและป่ายังมีความสมบูรณ์ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี นายอำเภอสระโบสถ์ อุตสาหกรรมจังหวัดลพบุรี อบต.มหาโพธิ ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้ลพบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลพบุรี และชาวบ้านกว่า 100 คน ร่วมรับฟัง


ภายหลังการพูดคุยกว่า 2 ชั่วโมง นายจารึก เผยว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมที่จังหวัด ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง สอบถามข้อเท็จจริงของทั้ง 2 บริษัทที่ขอทำเหมืองแร่เพอร์ไลต์ ซึ่งได้ข้อมูลมาพอสมควร วันนี้จึงลงพื้นที่มาพูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่คัดค้าน สอบถามการทำประชาคมมีความโปร่งใสหรือไม่อย่างไร ซึ่งเท่าที่พูดคุยปรากฏว่า การทำประชาคมยังไม่เสร็จสมบูรณ์เท่าที่ควร มีประชาชนคัดค้าน และแจ้งว่าการทำประชาคมไม่โปร่งใส ซึ่งเท่าที่มีข้อมูลรายชื่อประชาชนอยู่ประมาณ 400 รายชื่อ แต่มีผู้ลงชื่ออยู่ประมาณ 54 คน ซึ่งผู้ที่จะเข้ามาทำเหมืองแร่ทั้ง 2 แห่ง หากจะดำเนินการต่อก็ต้องมาทำประชาคมใหม่ทั้งหมด โดยมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอสระโบสถ์ กำนัน ผู้ใหญ่ มาร่วมทำประชาคมกับพี่น้องประชาชน ส่วนกรณีประชาชนจะมีการผลักดันให้จุดที่ระบุว่าเป็นป่าเสื่อมโทรมเป็นป่าชุมชนนั้น ต้องให้ตัวแทนไปยื่นอธิบดีกรมป่าไม้ให้เปิดเป็นป่าชุมชนต่อไป หลังจากนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจพื้นที่ และสรุปผลในที่ประชุมส่งให้ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน

ด้านนายสังวาลย์ ไพรทูลย์ ตัวแทนชาวบ้านที่ร่วมคัดค้าน ระบุว่า การที่ชาวบ้านต้องออกมาคัดค้านการทำเหมืองแร่เพอร์ไลต์ เพราะต้องการผืนป่ากลับมาเป็นของชุมชน ตั้งแต่บรรพบุรุษที่อาศัยป่าแห่งนี้เป็นที่ทำมาหากิน สำหรับแร่เพอร์ไลต์ ถือว่าเป็นแร่ที่ดีที่สุด และยังมีประโยชน์กับการทำนาข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมมะลิของบ้านมหาโพธิ ได้ชื่อว่าเป็นข้าวที่ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาการทำประชาคมนั้นไม่มีความชัดเจน โดยก่อนหน้านี้มีการทำประชาคมและมีผู้ลงชื่อเพียง 54 คน แต่อีกกว่า 200 คน ไม่ได้มีการลงชื่อ และยังมีบางคนลงชื่อไปโดยเข้าใจว่าเป็นการลงชื่อเข้าร่วมประชุมเท่านั้น สำหรับในวันนี้มีการมาพูดคุยและสอบถามทางชาวบ้านว่าจะเอาหรือไม่เอาเหมืองแร่ ในส่วนที่มีการยื่นข้อเสนอต่างๆ รวมถึงเงินชดเชยที่จะใช้กับชุมชน ในส่วนนั้นชาวบ้านได้รับบทเรียนจากการทำเหมืองมาแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ชุมชนมีอะไรดีขึ้นมา

จากนั้นทางคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ดูแนวเขตที่มีการขอทำเหมือง รวมทั้งแนวป่าและน้ำตกที่ชาวบ้านระบุว่าเป็นแหล่งต้นน้ำด้วย. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย