กรุงเทพฯ 10 พ.ย.- ภาครัฐ-เอกชน ชี้ธุรกิจโรงแรมเริ่มฟื้น อัตราการเข้าพักแตะ 40% หลังเปิดประเทศ นักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยเพิ่ม มั่นใจสัญญาณดี ท่องเที่ยวส่งท้ายปีและปี 65 กลับมาคึกคัก
นางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า สำหรับผลตอบรับหลังเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัวและไม่จำกัดพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บรรยากาศการท่องเที่ยวดีขึ้นตามลำดับ อัตราการเดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ย 2,000-3,000 คน/วัน มากสุดคือนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา รองลงมาคือ เยอรมนี อังกฤษ ญี่ปุ่น สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจีน และมีประเทศใหม่ที่เปิดบินตรงมายังภูเก็ตครั้งแรก คือ อิสราเอล ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เช่น กลุ่มนักธุรกิจตีกอล์ฟ รวมไปถึงกลุ่มเที่ยวแบบทำงาน Workation // กลุ่ม Health and Wealthness ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อหัวสูง โดยพบว่าต่างชาติที่มาไทยมากสุด 90% จะมาในโครงการ Test & Go คือ ทำ RT-PCR 1 ครั้ง ถ้าผลเป็นลบไม่ต้องกักตัว รองลงมาคือ Sand Box และ Happy Quarantine พร้อมยืนยันนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 ได้ถึง 600,000 คน ตามเป้าที่ตั้งไว้
สำหรับในช่วง 5 ปีหลังจากนี้ ภาคการท่องเที่ยวไทยจะถูกขับเคลื่อนโดยไทยเที่ยวไทยเป็นหลัก ตามที่สภาพัฒน์ฯ ประเมิน เนื่องจากทั่วโลกเพิ่งฟื้นตัวจากโควิด-19 โดย ททท. วางแผนกระตุ้นตลาดไทยเที่ยวไทย ดึงคนไทยที่เคยเที่ยวนอกมาเที่ยวในไทย และกลุ่มต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย ซึ่งใช้จ่ายมากกว่าไทยเที่ยวไทยปกติ 2-3 เท่าตัว
ทั้งนี้ มาตรการภาครัฐ อย่างเราเที่ยวด้วยกัน และทัวร์เที่ยวไทย ตั้งแต่ 15 ตุลาคม จนถึงปัจจุบัน มีเม็ดเงินสะพัดแล้วกว่า 3,500 ล้านบาท และ ททท.กำลังพิจารณาโครงการท่องเที่ยวในปี 2565 หลังจากสิ้นสุดโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และทัวร์เที่ยวไทย ในช่วงต้นปีหน้า โดย ททท. มั่นใจว่าปี 2564 ประเทศไทยจะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ 1 ล้านคน สร้างรายได้สู่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ไม่น้อยกว่า 625,700 ล้านบาท ขณะที่ปี 2565 ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 18 ล้านคน เมื่อรวมกับเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ 160 ล้านคนครั้ง คาดว่าจะมีเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1.9 ล้านล้านบาท
ด้านนางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC มั่นใจว่า หลังเปิดประเทศการท่องเที่ยวปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ตั้งอยู่ในหัวเมืองสำคัญอย่างกรุงเทพฯ หรือภูเก็ต ซึ่งอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นทันทีกว่า 2 เท่า ตรวจตราการเข้าพักเดือนพฤศจิกายน เฉลี่ย 30% และจะแตะ 40% ในเดือนธันวาคม และเป็นสัญญาณที่ดีเมื่อพบว่าผู้เข้าพักที่เข้ามาในเดือนพฤศจิกายน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แท้จริง 70% จากจำนวนผู้เข้าพักทั้งหมด ต่างจากเดิมที่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยกลับมาจากต่างประเทศ และเกิดการท่องเที่ยวซ้ำ ขณะที่ยอดจองล่วงหน้าเริ่มกลับเข้ามาจำนวนมาก เช่น กลุ่มพนักงานสายการบินและลูกเรือ ต่างชาติที่บินเข้าไทยที่จองมากว่า 2,000 รูมไนท์ รวมถึงงานในรูปแบบที่การประชุมออนไลน์ไม่สามารถทดแทนได้ อาทิ งานแต่งงาน งานสัมมนา เห็นยอดคอนเฟิร์มการจัดงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะมีอัตราเติบโตกลับมาได้ต่อเนื่อง สามารถกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี 2565 เป็นต้นไป ล่าสุดได้เปิดให้บริการโรงแรม คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ อย่างเป็นทางการ เป็น 1 ใน 19 โรงแรมในเครือ ซึ่งตั้งอยู่ใน 6 เมืองท่องเที่ยวสำคัญ ส่งผลให้มีจำนวนห้องพักรวมกันเกือบ 5,000 ห้อง ผ่านการรับรองและให้บริการตามมาตรฐาน ไว้ต้อนรับการท่องเที่ยวที่กลับมา.-สำนักข่าวไทย