นนทบุรี 4 พ.ย. – ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เชื่อปริมาณพืชผักจะกลับมาเพียงพอได้ไม่ช้านี้ มั่นใจโครงการรถโมบายจะช่วยให้ประชาชนหาซื้อผักในราคาไม่แพงได้ ย้ำแม้ราคาข้าวเปลือกจะตก เจอปัญหาภัยธรรมชาติ แต่มีโครงการประกันรายได้ช่วยไม่ให้เกษตรกรกระทบมาก
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่าราคาผักที่มีราคาปรับสูงขึ้นจะเป็นกลุ่มพวกผักชีเป็นหลัก ซึ่งเป็นผักที่มีความอ่อนไหวต่อน้ำและสภาพอากาศสูง ทำให้ได้รับผลกระทบมาก โดยผักชนิดนี้เป็นผักตบแต่งไม่ใช่ผักหลักในการบริโภค ดังนั้น การที่กรมการค้าภายใน จะจัดรถโมบายจำนวน 50 คัน ในช่วง 1 เดือนที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.นี้ทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะช่วยให้ผู้บริโภคมีพื้นที่ซื้อสินค้าค้าราคาถูกได้มากขึ้น เพราะแนวทางเชื่อมตรงจากตลาดกลาง เช่น ตลาดศรีเมือง จังหวัดราชบุรี ตลาดสี่มุมเมืองและตลาดไท ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ที่จะเชื่อมโยงจำหน่ายไปในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งจะทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการร้านอาหาร สามารถซื้อผักได้อย่างเพียงพอในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม
ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน คาดว่าแม้ราคาผักที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้บ้าง แต่ถือว่าเป็นการปรับขึ้นระยะสั้น และหลังจากเกษตรกรที่ลดพื้นที่เพาะปลูกหันมาปลูกผักชนิดต่างๆเพิ่มขึ้นและสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆกลับสู่ปกติ คาดว่าพื้นที่เพาะปลูกจะกลับมาเพาะปลูกผักเพิ่มขึ้นจะทำให้ปริมาณพืลผักชนิดต่างๆจะเพิ่มขึ้นเพียงพอต่อความต้องการบริโภคแน่นอน นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังได้กำชับให้ค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศให้สอดส่องตรวจสอบทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากพ่อค้าแม่ค้ามีการโก่งราคาสินค้ามากจนเกินไปโดยไม่มีเหตุผลจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมายทันที ซึ่งมีทั้งโทษปรับและจำคุก หากประชาชนพบเห็นร้องเรียนสายด่วน 1569 ได้ทันที
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดเข้าไปดูแลในเรื่องของราคาและปริมาณให้เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะในช่วงน้ำท่วมก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันเมื่อปรากฏข่าวที่อาจมีปัญหากับระบบการขนส่ง ได้สั่งการล่วงหน้าให้บริษัทผู้ผลิตสำคัญเร่งส่งสินค้าจำเป็นไปยังศูนย์กระจายสินค้า อย่าให้เกิดกาขาดแคลน โดยอธิบดีกรมการค้าภายในติดตามอยู่แล้ว อย่างน้อยทางด้านปริมาณอย่าให้ขาด ด้านราคาได้มีการติดตามและประชุมร่วมกับผู้ผลิต ผู้จำหน่ายว่าต้องมีการตรึงราคาไว้ ขณะนี้สินค้าส่วนใหญ่ที่เป็นสินค้าควบคุม ถ้าจะขอปรับราคาขึ้นต้องขออนุญาตอธิบดีกรมการค้าภายในก่อน ซึ่งยังไม่มีการอนุมัติอนุญาตให้รายใดขึ้นราคาถือว่าตรึงราคาอยู่ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค
สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกในขณะนี้ ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ผ่านมามีปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม ทำให้พื้นที่เพาะปลูกข้าวเปลือกมีราคาไม่ดีนัก ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลมีแนวทางหลักประกันพืชผลทางการเกษตรใน 5 ชนิดโดยยามใดที่ราคาข้าวในตลาดตกต่ำ รัฐบาลมีหลักประกันรายได้ เช่นข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท หากราคาต่ำกว่ารายได้ที่ประกันจะมีเงินส่วนต่างเพื่อมาเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเจ้า ทำให้เกษตรกรมีรายได้รวมเป็น 10,000 บาทตามรายได้ที่ประกัน ผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ ประกันรายได้ตันละ 15,000 บาท เป็นต้น ต้องการให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวยังชีพอยู่ได้และไม่ต้องเลิกอาชีพนี้ไปทำอย่างอื่น แต่ขอให้เกษตรกรปลูกข้าวที่มีการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยรัฐบาลดูแลเกษตรกร รวมถึงผู้บริโภคทั่วประเทศอย่างเต็มที.-สำนักข่าวไทย