นนทบุรี 28 ต.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ สั่งเฝ้าติดตามไม่ให้สินค้าขาดตลาดหลังสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยจะหยุดการเดินรถหวั่นกระทบผู้บริโภค ปลื้ม 27 ผลงานสามารถทำได้จริง วางกรอบเดินหน้าสางต่อปีหน้า
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกระแสข่าวที่ทางสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้ภาครัฐปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลงมาไม่เช่นนั้นจะหยุดการเดินรถให้บริการที่อาจจะกระทบต่อภาคการขนส่งสินค้าอุปโภคและบริโภคจนทำให้กระทบต่อผู้บริโภคทั่วประเทศด้วยนั้น ในเรื่องนี้ ทางกรมการค้าภายในและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเท่าที่ได้รับรายงานขณะนี้ ผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้ายังให้บริการอยู่ยังไม่ได้หยุดการเดินรถแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทางกรมการค้าภายในได้มีการหารือและเตรียมความพร้อมโดยเฉพาะได้พูดคุยกับผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่และห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศไว้บ้างแล้ว ไม่ใช่เฉพาะกรณีเท่านั้น โดยผลกระทบจากปัญหาโควิดหรือแม้แต่ผลกระทบด้านน้ำท่วมในหลายพื้นที่ให้ผู้ผลิตสินค้าและห้างสรรพสินค้าช่วยกันดูแลในด้านของสตอกสินค้าอุปโภคและบริโภคจะต่องไม่ให้เกิดการขาดแคลนแต่อย่างใด โดยให้มีการบริการและจัดการให้สินค้ามีเพียงพอต่อความค้องการของประชาชนทั่วประเทศ หากมีการหยุดเดินรถบรรทุกสินค้าจะได้มีสินค้าในแต่ละห้างสรรพสินค้าอย่างเพียงพอและจะต้องไม่ทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อนในทุกกรณี ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นห่วงเรื่องของสินค้าจะต้องมีอย่างเพียงพอและให้มีการติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิดได้ต่อไป
สำหรับผลงาน 2 ปี ภายใต้บริหารงานของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น โดยสามารถบริหารจัดการ ซึ่งผลงานเด่นในรอบ 2 ปีทั้งหมด 27 ผลงานด้วยกัน สร้างความเข้มแข็งให้ภาคธุรกิจและช่วยเหลือภาคเกษตรกรและประชาชนได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการประกันรายได้เกษตรกร พืชหลัก 5 ชนิด ที่ช่วยเหลือเกษตรกรทั้งสิ้น 7.8 ล้านครัวเรือน แบ่งเป็น ข้าว 4.68 ล้านครัวเรือน ยางพารา 1.83 ล้านครัวเรือน มันสำปะหลัง 0.52 ล้านครัวเรือนปาล์มน้ำมัน 0.37 ล้านครัวเรือน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 0.45 ล้านครัวเรือน และอีกหลายโครงการที่เดินหน้าไปด้วยดีและจะเดินหน้าต่อไปในปีที่ 3 หรือในปี 2565 นี้ลากหลายทั่วทุกภูมิภาคทั่วไทย
อย่างไรก็ตาม แม้ทั่วโลกยังจะต้องเจอปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 อยู่ต่อไป แต่กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งอยู่เฉยได้ปรับแนวทางการทำตลาดด้านการส่งออกสินค้าไทยตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเพื่อให้สินค้าไทยมีช่องทางส่งออกไปตลาดต่างประเทศได้ โดยผ่านแนวทางการส่งเสริมการค้ารูปแบบใหม่ สู่ New Normal ซึ่งปรับยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องรับมือกับภาวะวิกฤตโควิดสร้างมูลค่าการค้าให้เกิดขึ้นรวมกว่า 158,113 ล้านบาท ส่งเสริมผู้ประกอบการไทย มากกว่า 14,000 ราย ผ่านการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆมากมาย โดยในปีหน้าจะมีการเจรจารูปแบบการค้าดังกล่าวให้มากขึ้นเพื่อดึงเงินตราต่างประเทศให้เข้ามาในไทยเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เตรียมแผนงานต่างๆในปีหน้าไว้พร้อมแล้วการเจรจาการค้ารูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งยังมีแนวทางการดูแลสินค้าภายในประเทศและแนวทางส่งเสริมสินค้าเกษตรและผลไม้ให้มีช่องทางจำหน่ายต่อเนื่องลดผลกระทบสินค้าล้นตลาดอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย