รมว.คลัง แนะธุรกิจประกันนำระบบไอทีมาใช้ชดเชยสินไหม

กรุงเทพฯ 26 ต.ค.-รมว.คลัง แนะธุรกิจประกันนำระบบดาวเทียมไอทีมาใช้ชดเชยสินไหม ขณะที่ คปภ.ยอมรับวิถีชีวิตโลกยุคใหม่ ต้องใช้ประกันคุ้มครองความเสี่ยงที่เกิดขึ้นหลากหลาย


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษงาน Thailand Insurtech Fair ครั้งที่ 1 ยอมรับว่า ปัจจุบันความเสี่ยงใหม่ๆ เกิดขึ้นหลากหลาย ทั้งภัยธรรมชาติ ไวรัสโควิด เพื่อความสะดวกในการเคลมประกันภัยที่เกิดขึ้น จึงต้องทำระบบดาวเทียมมาใช้ประเมินความเสียหายน้ำท่วม จากการประกันภัยนาข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้จ่ายชดเชยสินไหมทดแทนได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการชดเชยประกันภัยโควิด-19 เมื่อนำระบบแอปพลิเคชันมาใช้รับร้องเรียน ทำให้จ่ายชดเชยได้รวดเร็วขึ้น เมื่อรัฐบาลส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม จะทำให้ธุรกิจประกันภัยต้องออกแบบกรมธรรม์ให้ตรงกับโลกยุคใหม่ การหันมาใช้ประกันภัย เป็นช่องทางระดมทุน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การออมเงินระยะยาว รองรับสังคมผู้สูงอายุ 

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า จากปัญหาโควิด-19 และความเสี่ยงอื่นๆ ทำให้การประกันภัยจะเข้าถึงชีวิตประจำวันมากขึ้น และมีราคาถูกลง เมื่อนำเทคโนโลยีมาใช้บริการ การประกันภัยจะเชื่อมโยงกับสินค้าและบริการมากขึ้น ทั้งการซื้อประกันการเดินทาง การประกันการท่องเที่ยว การประกันสุขภาพ จะซื้อง่าย ขายคล่อง เพื่อคุ้มครองความเสี่ยง ขณะที่ คปภ.ต้องกำกับดูแลความเสียหาย และการชดเชยสินไหมอย่างรวดเร็วและเป็นธรรมอย่างใกล้ชิด ผ่าน พ.ร.บ.ประกันภัย ฉบับใหม่   


อย่างไรก็ตาม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมากล่าวเปิดงาน “Thailand Insurtech Fair ครั้งที่ 1” ภายใต้แนวคิด “InsurTech for all and for the next normal” ในวันนี้ ซึ่งผมทราบมาว่า การจัดงานในปีนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาจากการจัดงานสัปดาห์ประกันภัยที่บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย มานำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยในรูปแบบความคุ้มครองต่างๆ ให้แก่ประชาชน สำหรับในปีนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็นแบบ Virtual Event ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และได้มีการขยายขอบเขตของงานให้น่าสนใจยิ่งขึ้น โดยการนำเสนอเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย หรือที่เรียกว่า Insurtech รวมถึงได้เพิ่มเติมส่วนของการสัมมนาเชิงวิชาการให้เข้มข้นขึ้น โดยได้เชิญวิทยากรซึ่งเป็นผู้รู้และผู้นำในวงการประกันภัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี หรือ InsurTech Startups ที่มีชื่อเสียง ทั้งจากในประเทศและจากต่างประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจประกันภัยในยุคดิจิทัล และการก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในยุค Next Normal 

ทั้งนี้ ขอชื่นชมคณะกรรมการ คปภ. ผู้บริหาร และบุคลากรสำนักงาน คปภ. ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการจัดงาน และในการทำหน้าที่ขับเคลื่อนภาคการประกันภัยให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง และสามารถตอบสนองต่อความต้องการของสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้ประชาชนทุกภาคส่วนใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตและทรัพย์สิน ในขณะเดียวกันก็รักษาสมดุลระหว่างบทบาทด้านการคุ้มครองผู้บริโภค และการรักษาเสถียรภาพของระบบประกันภัยได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญยิ่ง ต้องขอขอบคุณภาคธุรกิจประกันภัยที่ได้ร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งนับเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในการสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เศรษฐกิจฐานราก ผ่านการขับเคลื่อนนโยบายของภาครัฐด้านการบริหารความเสี่ยงในภาคการเกษตร ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลาย เพื่อบรรเทาความเสียหายและเพิ่มศักยภาพในการรองรับความเสี่ยงให้กับเกษตรกร โดยมีผลงานที่โดดเด่น อาทิเช่น การประกันภัยข้าวนาปีและการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติได้อย่างเป็นระบบ มีการเยียวยาค่าเสียหายให้กับเกษตรกรอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ทำให้เกษตรกรสามารถฟื้นตัวกลับมาประกอบอาชีพเพื่อดำรงชีวิตต่อไปได้หลังจากประสบภัยธรรมชาติ  

นอกจากนี้ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภาคอุตสาหกรรมประกันภัยไทยได้แสดงความสามารถให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ถึงบทบาทด้านการบริหารความเสี่ยงให้กับสังคมไทย ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองอย่างเหมาะสมต่อสถานการณ์ เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในประเทศและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวมถึงการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาผลกระทบให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไปได้ และเป็นกลไกที่สำคัญในการกระจายผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจไปสู่ภาคประชาชนอย่างทั่วถึง ซึ่งความท้าทายรอบด้านจากสถานการณ์การแพร่ระบาดนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำประกันชีวิตและการจัดทำประกันสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งในระดับครัวเรือนและระดับผู้ประกอบการ 


สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ การเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการรับมือกับสถานการณ์ปัจจุบัน ความท้าทายที่จะยังคงอยู่ภายหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคคลี่คลายไป ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ภายหลังยุคโควิด คือ ผู้คนและภาคธุรกิจมีการพึ่งพาเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก การทำธุรกรรมออนไลน์ หรือการทำงานจากที่บ้าน กลายเป็นสิ่งธรรมดาในชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องมีการปรับตัวให้สามารถติดต่อและให้บริการลูกค้า ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมีนัยสำคัญของเทคโนโลยี หรือ Technology Disruption ที่ส่งผลให้การแข่งขัน การดำเนินธุรกิจ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว ความท้าทายหลักที่ถือเป็น Mega Trend ที่ทุกภาคส่วนยังคงต้องตระหนักถึงและเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ได้แก่ การก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ที่นับเป็นอีกความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว และการรับมือกับสภาวะโลกร้อน หรือ Climate Change ที่ได้ทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ ก่อให้เกิดความสูญเสียในเชิงเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งหากมีการนำกลไกของการประกันภัยมาใช้ในการบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะสามารถบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงควรมีการส่งเสริมให้มีการประกันภัยสำหรับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ นอกเหนือไปจากการบริหารความเสี่ยงในภาคเกษตรกรรมสำหรับเศรษฐกิจฐานรากแล้ว ด้านการคมนาคมก็ถือเป็นอีกหนึ่งภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีความจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนให้มีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและเพียงพอเช่นกัน อาทิ สนามบิน รถไฟ รวมถึงการจัดทำประกันภัยสำหรับทรัพย์สินของทางราชการและโครงการของรัฐ เพื่อสนับสนุนให้ให้ภาครัฐมีการบริหารความเสี่ยงภัยอย่างเป็นระบบและครบวงจร

ทั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ภาคอุตสาหกรรมประกันภัยจะร่วมเป็นกลไกหลักที่สำคัญในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีเสถียรภาพมั่นคง ทั้งจากภายในและภายนอก และประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง ด้วยการลดความยากจน ความเหลื่อมล้ำ และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากขึ้นมาให้ได้ ผ่านการส่งเสริมการเข้าถึงการประกันภัยให้แก่ประชาชนในทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึงและเพียงพอ ในโอกาสนี้ ขอเปิดงาน “Thailand Insurtech Fair ครั้งที่ 1” ภายใต้แนวคิด “InsurTech for all and for the next normal” อย่างเป็นทางการ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดงานในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ทุกประการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Satellite images show Palisades Fire

ไฟป่าแอลเอเหลือเผาไหม้รุนแรง 3 จุด

ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส หรือแอลเอเคาน์ตี้ ของสหรัฐ ยังเหลือลุกไหม้รุนแรงอยู่ 3 จุด ภัยคุกคามจากไฟป่ายังคงสูงจนถึงวันพุธ เนื่องจากกระแสลมพัดกระโชกแรง

ดอยอินทนนท์หนาวจัด

อากาศหนาวปกคลุมภาคเหนือ ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิเหลือ 1 องศาฯ

อากาศหนาวระลอกใหม่ปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดลงเหลือแค่ 1 องศาฯ ส่วนจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เช้าวันนี้ (13 ม.ค.) อุณหภูมิ 5 องศาฯ นักท่องเที่ยวรอชมแสงแรกจนเต็มพื้นที่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน หนาวจัด กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน อากาศหนาวจัด ส่วนประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยกับมีลมแรง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาฯ

รถรางโดยสารชนกันในฝรั่งเศส บาดเจ็บ 68 คน

รถรางโดยสาร 2 ขบวน ชนประสานงากันในเมืองสตราสบูร์ก ทางตะวันออกของฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 68 คน