ธอส. เผยผลดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 64 ปล่อยสินเชื่อใหม่ 1.66 แสนล้าน

กรุงเทพฯ 17 ต.ค.- ธอส. เผยผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 64 ปล่อยสินเชื่อใหม่ทำให้คนไทยมีบ้านได้แล้ว 1.66 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.53% จากช่วงเดียวกันของปี 2563


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 166,173 ล้านบาท 117,802 บัญชี เพิ่มขึ้น 6.53% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 สินเชื่อคงค้างรวม 1,408,857 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 1,455,358 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) 4.52% และมีเงินสำรองจำนวน 108,201 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 169.80% ขณะที่ผู้ลงทะเบียนโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 ล่าสุด ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2564 อยู่ที่ 58,955 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 70,746 ล้านบาท พร้อมช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อย่างต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 21 เดือน มีจำนวนลูกค้าเข้ามาตรการช่วยเหลือของ ธอส. รวมสูงสุดถึง 968,555 บัญชีเงินต้นคงเหลือ 842,056 ล้านบาท    

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ว่าแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และรายได้ของประชาชน แต่ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” ยังคงสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการยกระดับคุณภาพชีวิต และความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้จำนวน 166,173 ล้านบาท 117,802 บัญชี เพิ่มขึ้น 6.53% จากช่วงเดียวกันของปี 2563 คิดเป็น 77.06% ของเป้าหมายสินเชื่อปล่อยใหม่ปี 2564 ที่ 215,641 ล้านบาท  ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,408,857 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.66% จาก ณ สิ้นปี 2563 สินทรัพย์รวม 1,455,358 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.42% เงินฝากรวม 1,231,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.03% หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จำนวน 63,723 ล้านบาท คิดเป็น 4.52% ของยอดสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตลาด (สิ้นปี 2563 ธอส.มี NPL อยู่ที่ 3.75%) โดยมีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพื่อความมั่นคงและเตรียมพร้อมรองรับผลกระทบจาก COVID-19 ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตที่ 108,201 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 169.80% โดยยังคงมีกำไรสุทธิตามตัวชี้วัดของธนาคารที่ 8,966 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ระดับแข็งแกร่ง โดย ณ เดือนสิงหาคม 2564 อยู่ที่ 15.36% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดที่ 8.50% ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อได้อย่างต่อเนื่องยังคงเกิดจากความต้องการของประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำของ ธอส.และมีปัจจัยเสริมจากการจัดโปรโมชันต่าง ๆ ของผู้ประกอบการ ทำให้ต้นทุนในการมีที่อยู่อาศัยของประชาชนต่ำลง รวมทั้งนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ออกมาช่วยเหลือประชาชน ทั้งนี้ ธอส. ยังคงเป็นผู้นำในตลาดด้วยการครอง ส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยคงค้างกว่า 31.4% และมั่นใจว่า ณ สิ้นปี 2564 การปล่อยสินเชื่อใหม่จะเป็นไปตามเป้าหมาย 215,641 ล้านบาท 


ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การดำเนินงานของธนาคารยังคงเป็นไปตามเป้าหมายได้นั้น เกิดจากการทำการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data Driven Marketing) ซึ่งธนาคารได้ทำ GHB Data Analytics นำฐานข้อมูลลูกค้ามาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีเพื่อทำนายหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สนใจใช้บริการผลิตภัณฑ์ของธนาคารทั้งลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ล่าสุดยังได้ขยายกรอบวงเงินผลิตภัณฑ์สินเชื่อ โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2564 เพิ่มขึ้นอีก 20,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงินเดิม 50,000 ล้านบาท รวมเป็น 70,000 ล้านบาท เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในช่วง COVID-19 ซึ่งปัจจุบันมียอดอนุมัติ 47,045  ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย ปีแรกเพียง 2.75% ต่อปี ให้กู้รายละไม่เกิน 3 ล้านบาท สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาท/เดือน และไม่เคยมีประวัติการผ่อนชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยกับ ธอส. หรือ สถาบันการเงินอื่น  

สำหรับความคืบหน้าในการดำเนินโครงการตามนโยบายรัฐบาล โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 อัตราดอกเบี้ยต่ำ 1.99% ต่อปี นาน 4 ปีแรก เงินงวดคงที่ 84 งวดแรก ( 7 ปี ) ให้กู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคาซื้อ-ขายไม่เกิน 1,200,000 บาท โดยเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน Mobile Application : GHB ALL ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 เป็นต้นมา ล่าสุด ณ วันอาทิตย์ที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 12.00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการแล้ว 58,955 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 70,746  ล้านบาท โดยมีลูกค้าที่เอกสารพร้อมและยื่นกู้ที่สาขาของธนาคารแล้ว 1,976 ราย วงเงินสินเชื่อ 1,688 ล้านบาท ซึ่งธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 1,388 ราย วงเงินสินเชื่อ 1,129 ล้านบาท   

ขณะที่ การให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 ซึ่ง ธอส. ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลา 21 เดือน รวม 20 มาตรการ มีจำนวนลูกค้าเข้ามาตรการรวมสูงสุดเป็นจำนวนถึง 968,555 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 842,056 ล้านบาท ส่วนใหญ่กว่า 87.5 % สามารถปรับตัวและกลับมาผ่อนชำระตามปกติได้แล้ว ปัจจุบันยังมีลูกค้าที่อยู่ระหว่างการรับความช่วยเหลือตามมาตรการจำนวน 120,965 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 120,337 ล้านบาท ล่าสุดธนาคารได้ประกาศขยายระยะเวลาความช่วยเหลือลูกค้าเดิมที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการตาม “โครงการ ธอส. รวมไทยสร้างชาติ” จำนวน 8 มาตรการ โดยเปิดให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 8 – 29 ตุลาคม 2564 ผ่าน Application : GHB ALL หรือ GHB Buddy บน Application Line เพื่อขอรับการขยายระยะเวลาความช่วยเหลือต่อไปถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ล่าสุด ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2564 เวลา 12.00 น. มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอขยายความช่วยเหลือแล้ว 41,369 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 44,526 ล้านบาท 


นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปตามวิถีชิตใหม่(New Normal) ธอส. จึงได้ปรับแผนยุทธศาสตร์ธนาคารให้ก้าวไปสู่การเป็น Digital Bank อย่างเต็มรูปแบบเร็วขึ้นในปี 2565 โดยการพัฒนาบริการใหม่บน Application : GHB ALL อย่างต่อเนื่อง เช่น บริการล่าสุดสำหรับกรณีลูกค้าที่เคยสมัคร และลงทะเบียน GHB ALL ไว้แล้ว หากเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ สามารถยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถือได้ด้วยตัวเองเพื่อใช้งาน GHB ALL ได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องเดินทางไปสาขาธนาคาร เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ล่าสุดมีลูกค้าทำธุรกรรมผ่าน GHB ALL ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 สูงถึง 1,019,402 รายการ เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2563 ถึง 34.21% โดยมีจำนวนผู้สมัครใช้งาน Application : GHB ALL แล้วเป็นจำนวน 1,142,257 ราย และปัจจุบันธนาคารยังมีแผนการพัฒนาและปรับปรุง Application : GHB ALL ให้ใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยฟังก์ชันที่รองรับบริการใหม่ๆ อาทิ การยื่นขอสินเชื่อ Live Chat กับเจ้าหน้าที่ธนาคาร การซื้อ-ไถ่ถอนสลาก ออมทรัพย์แบบดิจิทัล และการลงนามสัญญาแบบ e-Signature เป็นต้น โดยคาดว่าการพัฒนาจะแล้วเสร็จและเปิดให้ลูกค้าใช้งานได้ภายในเดือนเมษายน 2565 ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2564 ธอส. ได้เริ่มเปิดใช้งานระบบ GHB PDPA ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อรองรับการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญในด้านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างครบวงจร อาทิ ระบบ Consent และ Cookie Management เพื่อรองรับการขอความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทุกช่องทางหลักของธนาคาร และระบบ Data Subject Right Management รองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล 

ขณะเดียวกัน ธนาคารยังเตรียมเพิ่มวงเงินสลากออมทรัพย์ชุดเกล็ดดาว หน่วยละ 5,000 บาท อีกจำนวน 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่ต้องการออมเงินที่ให้ผลตอบแทนดีและมีโอกาสถูกรางวัลสูง ล่าสุด ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2564 มียอดจำหน่ายแล้ว 8.8 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 44,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารยังเตรียมนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากบางส่วนไปปล่อยกู้ให้กับผู้ประกอบการนำไปพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับราคาซื้อ-ขายต่อหน่วย ไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ตามเงื่อนไขของโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 รวมถึงนำเงินจากการจำหน่ายสลากเกือบทั้งหมดไปปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้ช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการซื้อบ้านมือสอง เป็นทางเลือกเพิ่มเติมจากการซื้อบ้านมือหนึ่ง และประชาชนที่ต้องการขายบ้านได้บรรลุความต้องการของตัวเอง ด้วยการจัดทำโครงการ G H Bank Marketplace หรือ ตลาดนัดบ้านมือสอง ธอส. โดยผู้ที่ต้องการขายบ้านสามารถฝาก ธอส. ขายได้ฟรี!! ไม่เสียค่าธรรมเนียมนานถึง 6 เดือน โดยใช้ช่องทางออนไลน์ของ ธอส. ที่เจาะกลุ่มผู้สนใจซื้อบ้านมือสองโดยเฉพาะ คือเว็บไซต์ www.ghbhomecenter.com หรือ Application : GH Bank Smart NPA  

ทั้งนี้ จากการที่ ธอส. ได้บริหารจัดการโดยใช้ความรู้ เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดคุณค่าทั้งในเชิงธุรกิจและเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรอย่างต่อเนื่อง ทำให้เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2564 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ประกาศให้ ธอส. ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ “ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภทรางวัลเกียรติคุณ ในกลุ่มองค์กรรัฐวิสาหกิจ” ประจำปี 2564 ซึ่งเป็นรางวัลนวัตกรรมอันทรงเกียรติสูงสุดของประเทศไทย และ ธอส. เป็นรัฐวิสาหกิจแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับรางวัลนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมโดยแท้จริงเพื่อเป็น “ธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับการมีบ้าน” ต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“ไมเคิล” ตอบรับคำเชิญ “จิรายุ” จ่อข้ามมาไทยพิสูจน์ข้อเท็จจริง

17 ส.ค.- “ไมเคิล อัลฟาโร” ล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน โพสต์ตอบรับคำเชิญ “จิรายุ” เตรียมข้ามฝั่งมาไทย อ้างค้นหาความจริงปมขัดแย้งชายแดน จ่อทำรายงานส่งถึง “ทรัมป์” ช่วงเช้าที่ผ่านมา เพจ “ไทยคู่ฟ้า” โพสต์สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “เที่ยงคืนถึงเช้านี้ พื้นที่ 7 จังหวัดประเทศไทย สถานการณ์ปกติ ไทยยังตรึงกำลังเพื่อรักษาอธิปไตยอย่างต่อเนื่อง” โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด เหตุการณ์ปกติ กองทัพไทยยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นทั้ง 11 พื้นที่ และวางรั้วลวดหนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาอธิปไตยของไทยไม่ให้ใครล่วงล้ำเข้ามา แม้ในขณะนี้ กัมพูชายังคงมีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ในรูปแบบต่างๆ เช่น การสร้างข่าวปลอม จ้างอินฟูลฯ การจัดฉาก สร้างสถานการณ์ใส่ร้ายประเทศไทย การจ้างวานบุคคลสมมติ จึงขอฝากความห่วงใยไปถึงประชาชนและสื่อมวลชนที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ใช้วิจารณญาณและตรวจสอบข้อมูลจากส่วนราชการ ก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อไป นายจิรายุ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีนายไมเคิล อัลฟาโร ล็อบบี้ยิสต์อเมริกัน […]

ศูนย์ทุ่นระเบิดจบภารกิจหนุนชายแดน เก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก

17 ส.ค. – ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเก็บกู้สรรพาวุธตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC สิ้นสุดภารกิจวันนี้ (17 ส.ค. 68) หลังสนับสนุนการเก็บกู้ระเบิดจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 1-16 สิงหาคมที่ผ่านมา TMAC ได้เก็บกู้สรรพาวุธที่ตกค้างกว่า 800 ลูก ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ประกอบด้วย กระสุน BM-21 ลูกปืนใหญ่ ปืน ค จรวด ก่อนหน้าสถานการณ์ตึงเครียด กัมพูชาขัดขวางการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ไม่จริงใจแก้ปัญหา ทั้งที่เป็นประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา ที่ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล สำหรับอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะ 81 หลังคาเรือน […]

ตรวจสอบ รร.ประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ

ขอนแก่น 17 ส.ค.- กองปราบจ่อประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” เชื่อเจ้าตัวไม่หนี ขณะที่ทนายวัดพระบาทน้ำพุเลื่อนแถลงข่าว อ้างเอกสารชี้แจงยังไม่เรียบร้อย ตรวจสอบโรงเรียนประถม “พระอลงกต” ไม่ปรากฏชื่อ กรณีเพจดังตั้งข้อสงสัยวุฒิการศึกษาพระอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อ้างว่าปี 2518 ยังเรียน มศ.2 จะจบวิศวฯ ปี 2519 ได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวสอบถามแหล่งข่าวในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ให้ข้อมูลว่ากรณีพระอลงกต ระบุว่าจบการศึกษาที่โรงเรียนระดับประถม(นันทวิทยาลัย) ปรากฏว่าไม่มีชื่อโรงเรียนนี้อยู่ในสังกัดสำนักงานเขตของพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอ ใน จ.ขอนแก่น หรือถ้ามี ก็อาจจะปิดตัวไปแล้ว   ส่วนระดับมัธยมศึกษานั้น ข้อมูลยืนยันว่า พระอลงกต ศึกษาจบระดับชั้น มศ.2 ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่นจริง มีศิษย์เก่าทั้งระดับชั้นเดียวกัน และรุ่นพี่รุ่นน้องต่างยืนยันว่า พระอลงกต จบจากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัยจริง ในปี 2518 แต่ยังสงสัยในระดับปริญญาตรีว่าจะจบจริงหรือไม่   เชื่อ “หมอบี” ยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ […]

รวบแล้ว “ลุงคลั่ง” ใช้ไม้หน้าสามตีหลานสาวดับ

ตรัง 17 ส.ค.- ตำรวจ สภ.ห้วยยอด รวบลุงคลั่งใช้ไม้หน้าสามฟาดหลานสาวแท้ๆ เสียชีวิตคาบ้านพัก สารภาพอ้างแค้นใจสะสมมานาน มีปากเสียงบ่อยครั้ง ตำรวจ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง คุมตัวนายสุริยัณห์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้ไม้หน้าสาม กระหน่ำตี น.ส.ปาริชาติ หรือน้องเชียร์ อายุ 21 ปี นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ซึ่งเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเองจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก จากนั้นหลบหนีขึ้นไปบนเขา คลองมวน  ต.หนองปรือ อ.รัษฎา เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าปิดล้อมภูเขา ก่อนจับกุมตัวได้พร้อมของกลางไม้หน้าสามเปื้อนเลือด ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร  สอบสวนนายสุริยัณห์ รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่ามีปัญหากับหลานสาวมานาน มักมีปากเสียงบ่อยครั้ง วันเกิดเหตุได้บุกเข้าไปในห้อง ใช้ไม้หน้าสามฟาดเข้าที่ท้ายทอยของหลานสาว 6–7 ครั้งจนเสียชีวิต ก่อนหลบหนีออกจากบ้าน ผู้ต้องหาระบุว่า เคยทำงานเป็นช่างสักตามเกาะท่องเที่ยว เช่น เกาะพะงัน และเกาะพีพี แต่มีปัญหาจึงกลับมาอยู่บ้าน มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเคยถูกส่งตัวเข้าบำบัดหลายครั้ง ขณะถูกสอบสวนยังสามารถโต้ตอบคำถามได้ปกติ แต่ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป สำหรับศพของ “น้องเชียร์” ล่าสุด […]