ชัยนาท 2 ต.ค.-อธิบดีกรมชลประทาน เผยข่าวดี เริ่มปรับลดน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ตอนล่างแล้ว เนื่องจากน้ำเหนือมีแนวโน้มลดลง
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า น้ำที่มาจาก จ.สุโขทัย ซึ่งไหลมาสู่ภาคกลางลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังบริหารจัดการ นำน้ำจากแม่น้ำยมผันเข้าไปเก็บไว้ในทุ่งบางระกำ จ. พิษณุโลกเกือบ 400 ล้าน ลบ.ม. จากนั้นเมื่อแม่น้ำยมไหลมาถึงจ. นครสวรรค์ได้ผลักเข้าไปเก็บไว้ในบึงบอระเพ็ด เช่นเดียวกับแม่น้ำน่าน ราว 200 ล้าน ลบ.ม. ช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำทยอยลดลง
เมื่อน้ำไหลมาถึงบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ. ชัยนาทได้ส่งเข้าสู่ระบบชลประทานฝั่งตะวันตกได้แก่ ทางประตูระบายน้ำ (ปตร.) มะขามเฒ่า-อู่ทอง มะขามเฒ่า-กระเสียว พลเทพ และบรมธาตุ พร้อมบริหารจัดการน้ำทางตอนกลางลงสู่แม่น้ำท่าจีน เพื่อใช้แม่น้ำท่าจีนหน่วงน้ำไว้ ลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่เจ้าพระยาด้านท้าย เป็นการช่วยลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ไม่ได้ใช้ระบบชลประทานเหนือเขื่อนเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกรับน้ำเข้า ผ่านปตร. มหาราชและมโนรมย์ โดยเฉพาะปตร. มโนรมย์ที่จะไหลไปยังคลองชัยนาท-ป่าสัก เพราะน้ำจากอ. ตาคลี จ.นครสวรรค์ และอ.บ้านหมี่แลพโคกสำโรง จ. ลพบุรียังมีอยู่มาก
นายประพิศ กล่าวต่อว่า ปริมาณการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (2 ต.ค.) อยู่ที่อัตรา 2,766 ลบ.ม./วินาที ซึ่งทยอยปรับลดลง โดยควบคุมไม่ให้เกิน 2,700 ลบ.ม./วินาที เว้นแต่มีฝนตกลงมา อาจเกินบ้างเล็กน้อย ควบคู่ไปกับการเร่งระบายน้ำให้ออกทะเลที่ปตร. คลองลัดโพธิ์ ชลหารพิจิตร สุวรรณภูมิ และสถานีสูบน้ำชายทะเล รวมทั้งผันผ่านคลองระพีพัฒน์ ลงสู่แม่น้ำนครนายกและแม่น้ำบางปะกงออกอ่าวไทย ซึ่งจะลดผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา.-สำนักข่าวไทย