ผลสอบทุจริตถุงมือยาง อคส.เริ่มชัดเจน งานนี้มีไล่ออก

นนทบุรี 28 ก.ย.-คณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่ อคส.มีเอี่ยวทุจริตถุงมือยาง ชี้ชัดพบ 3 ราย ผิดวินัยร้ายแรงมีโอกาสไล่ออก รอผลคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดขององค์การคลังสินค้า เพื่อให้ผู้กระทำผิดชดใช้ความเสียหายอคส.กว่า 2,000 ล้านบาท คาดจะมีความชัดเจนเร็วๆนี้


รายงานจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า หลังจากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัยและคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดขององค์การคลังสินค้า โดยความเห็นชอบของผู้อำนวยการ อคส.ต่อกรณีความผิดจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาทในช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาความผิดทางวินัย ที่มีนายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ได้พิจารณาความผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ นายเกียรติขจร แซ่ไต่ และนายมูรธาธร คำบุศย์ เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.)หลังจาก อคส. แจ้งข้อกล่าวหาจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท อย่างมิชอบ ซึ่งเห็นว่าทั้ง 3 คน มีความผิดวินัยร้ายแรง และให้มารับทราบข้อกล่าวดังกล่าว ขณะเดียวกัน คณะกรรมการฯ จะสรุปการรับทราบข้อกล่าวหา และเสนอความเห็นเรื่องการลงโทษไปให้นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ อคส. พิจารณาลงโทษ แต่คาดน่าจะถึงขั้นไล่ออก 

นอกจากนี้ คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด ที่มีนายวันชัย วราวิทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานฯได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำและรายละเอียดต่างๆแล้ว คาดว่า จะพิจารณาแล้วเสร็จ และทำคำวินิจฉัยได้โดยเร็วเพื่อนำเสนอต่อผู้อำนวยการ อคส. จากนั้น อคส. จะเสนอคำวินิจฉัยไปให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด กระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง หากมีความเห็นตรงกัน อคส.จะออกคำบังคับ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ อคส. รวมถึงกรรมการในบอร์ด อคส. ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ชดใช้ความเสียหายให้ อคส. เบื้องต้นประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท ที่ยังไม่รวมดอกเบี้ย และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ แต่หากผู้กระทำการไม่ชดใช้ให้ อคส. สามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครอง หรือถ้าไม่มีเงินชดใช้ ต้องบังคับคดีและยึดทรัพย์กันต่อไป


นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจสอบในกรณีจัดซื้อถุงมือยางของการกระทำเจ้าหน้าที่ อคส.ที่สร้างความเสียหายให้กับ อคส.แต่อย่างใด โดยข้อเท็จจริงหากผลสอบเรื่องนี้ออกมาอย่างไร ทาง อสค.ไม่จำเป็นต้องรายงานให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ทราบ เพราะ อคส.แม้จะเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ แต่มีกฎหมายเฉพาะที่ดูแลและให้อำนวจพิจารณาความผิดของผู้อำนวยการ อคส.พิจารณาได้จะไล่ออกหรือปลดออก และเข้าใจว่าขณะนี้ คณะกรรมการชุดที่แต่งตั้งตรวจสอบความผิดกำลังพิจารณาในรายละเอียดในด้านต่างๆอยู่ คาดว่าน่าจะมีความชัดเจนการกระทำความผิดของกลุ่มผู้กระทำได้ในเร็วๆนี้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมสรรพกำลังแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5

นายกฯ ไม่นิ่งนอนใจปัญหา PM 2.5 วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากดาววอส สั่งการทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังแก้ปัญหา ทำทุกมาตรการให้เกิดผลโดยเร็ว

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่