กรุงเทพฯ 21 ก.ย.-กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เผย เตรียมนำระบบ คัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (APPS) มาใช้ในการคัดกรองสุขภาพผู้เดินทาง ป้องกันการระบาดโควิด-19 ครอบคลุมใบรับรองการฉีดวัคซีนของผู้เดินทาง ที่เป็นมาตรฐานสากล รองรับการเปิดประเทศของไทย ในเดือนตุลาคมนี้
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ให้สัมภาษณ์ในรายการ “นาทีลงทุน” เช้าวันนี้( 21 ก.ย.) ระบุ AOT เตรียมนำ ระบบตรวจสอบและคัดกรองผู้โดยสารล่วงหน้า (Advance Passenger Processing System : APPS) ที่เคยนำมาใช้ก่อนหน้านี้ ในการตรวจสอบประวัติผู้เดินทาง เพื่อตรวจประวัติในอาชญากรรม ป้องกันอาชญากรรมข้ามแดน แต่จะนำมาปรับใช้ เพื่อการคัดกรองสุขภาพผู้เดินทาง (Health Certificate) ครอบคลุมการได้รับวัคซีนครบตามเงื่อนไขการเดินทางด้วย เพื่อทำให้การคัดกรองผู้เดินทางเกิดประสิทธิภาพ ซึ่งจะดูถึงการตรวจความถูกต้อง ใบรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล ได้รับการยอมรับ ทำให้การคัดกรอง และป้องกันการแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด- 19 ของไทยมีประสิทธิภาพ รองรับการเปิดประเทศของไทย ในเดือนตุลาคม 2564 ตามเป้าหมายของรัฐบาล
นอกจากนี้ ในส่วนของการดำเนินการของ AOT ยืนยันว่า ทำงานร่วมกับผู้ประกอบการสายการบิน และผู้ค้าภายในสนามบิน ที่มีกว่า 1,000 สัญญาอย่างใกล้ชิด และพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด นับจากมีการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในระลอกแรก เช่น การยกเลิกอัตราจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำ โดยให้ผู้ประกอบการจ่ายค่าตอบแทนตามจริงที่ขายได้ ขณะที่ผู้ประกอบการสายการบินที่มีปัญหาสภาพคล่อง ไม่สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมใช้สนามบิน ก่อนทำการบิน AOT ก็พร้อมผ่อนผัน ให้ความช่วยเหลือ
ทั้งนี้ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT ยอมรับว่า คาอหวังจำนวนผู้โดยสาร จะกลับเดินทางผ่านท่าอากาศยาน ทั้ง 6 แห่งของ AOT มากขึ้น หลังการเปิดประเทศ ในเดือนตุลาคมนี้ โดยปัจจุบัน ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง ของ AOT คือ เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวงเชียงราย ภูเก็ต หาดใหญ่ สุวรรณภูมิ และดอนเมือง มีผู้โดยสารเดินทางขณะนี้เฉลี่ยวันละ 15,000คน จากช่วงปกติ ก่อนสถานการณ์โควิด-19 (ปี 2562) ที่เคยมีผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวัน ประมาณ 4 แสนคน.-สำนักข่าวไทย