ตรึงราคาแอลพีจีต่อถึงสิ้นปี สั่งกองทุนน้ำมันฯ เตรียมแผน “กู้” อุดหนุน

กรุงเทพฯ 20 ก.ย.-กบง.ขยายเวลาตรึงราคาแอลพีจีต่อถึงสิ้นปี 64 สั่งกองทุนน้ำมันฯ หาแหล่งทุนอุดหนุนพ่วงดีเซล เตรียมแผนหากจำเป็นต้อง “กู้เงิน” หรือใช้เงินรัฐจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1.5 ล้านล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนรอบใหม่เร็วสุดปลายปี 64

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ (20 ก.ย.) เห็นชอบให้คงราคาขายปลีกก๊าซ.หุงต้ม หรือ LPG ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม – 31ธันวาคม 2564 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แม้ว่าราคา LPG ตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงปลายปีนี้ พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงพลังงานติดตามสถานการณ์ราคา LPG อย่างใกล้ชิด และนำเสนอแนวทางการทบทวนราคา LPG ต่อ กบง. ต่อไป


นายสุพัฒนพงษ์ ได้สั่งให้ สำนักงานกองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิง พิจารณาถึงที่มาของเงินที่ต้องอุดหนุนเพิ่มเติม รวมทั้งเตรียมพร้อมไว้กรณีที่ราคาน้ำมันกลุ่มดีเซลอาจพุ่งขึ้นในช่วงไตรมาส 4 /64 ถึงไตรมาส 1/65 ช่วงหน้าหนาว ที่อาจสูงกว่า 30 บาท/ลิตร จำเป็นต้องใช้เงินอุดหนุนจากกองทุนฯ โดยต้องกู้เงินมาดูแลหรือไม่ ในวงเงินเท่าใด จะเป็นภาระต่อหนี้สาธารณะมากน้อยเพียงใด โดยที่มาของเงินอุดหนุน ควรมาจากแหล่งใด มาจากเงินกองทุนน้ำมันฯ ซึ่งต้องขยายเพดานวงเงินอุดหนุนจากขณะนี้ กำหนดที่ 1.8 หมื่นล้านบาทไปมากน้อยเพียงใด หรือมาจากเงินกู้ของรัฐบาลตาม พ.ร.ก.กู้เงินรวม 1.5 ล้านล้านบาทได้หรือไม่ โดยภาพรวมจะนำเข้าสู่ที่ประชุม คณะกรรมการกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในวันที่ 28 ก.ย.นี้

สาเหตุที่ มอบให้กองทุนน้ำมันฯ ไปดูภาพรวมการกู้เงิน เพราะล่าสุดตัวเลขอุดหนุนราคาแอลพีจีตั้งแต่ โควิด-19 เริ่มระบาดต้นปี 63 จนถึงวันที่ 5 ก.ย.64 อุดหนุนไปแล้วที่ประมาณ 16,504 ล้านบาท บัญชีน้ำมันมีวงเงิน 29,431 ล้านบาท ส่งผลเงินกองทุนน้ำมันมีฐานะสุทธิ 12,927 ล้านบาท โดยประเมินว่า ไตรมาส4 /64 ราคาแอลพีจีตลาดโลกจะอยู่ที่ราว 673 เหรียญสหรัฐ/ตัน คาดว่ากองทุนฯจะมีเงินไหลออก ราว 13,60-1,400 ล้านบาทเดือน ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเร็วเกินคาดขณะนี้อยู่ประมาณ 70 เหรียญต่อบาร์เรล จึงทำให้ ฐานะกองทุนฯมีความสุ่มเสี่ยงหาก กองทุนฯต้องดูแลทั้งราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซหุงต้ม


ที่ประชุม กบง.ยังพิจารณามติ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) 4 .ส.ค.64ที่เห็นชอบกรอบแผนพลังงานชาติ ที่มอบหมายให้ กบง. ทบทวนปรับปรุงแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561 – 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev. 1) ในช่วงปี พ.ศ. 2564 – 2573 ซึ่งจะทำให้เกิดการประกาศรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นในปลายปี 64 หรือต้นปี 65 ส่วนจะเป็นโรงไฟฟ้า ขยะ หรือ โรงไฟฟ้าชุมชน เพิ่มขึ้นก็จะมีการพิจารณาความเหมาะสมต่อไป

โดยที่ประชุม กบง. ได้พิจารณาหลักการเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงทางพลังงานและส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของประเทศให้สอดรับกับประชาคมโลกที่มุ่งเน้นพลังงานไฟฟ้าสะอาด ลดการปล่อยคาร์บอนและรองรับการก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Decarbonization) ประกอบด้วย

  1. ทบทวนปรับพิ่ม/ลดกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่รายปีของโรงไฟฟ้าประเภทฟอสซิล (Coal/Natural Gas) โรงไฟฟ้าจาก พลังงานทดแทน หรือ RE (รายเชื้อเพลิง) เช่น ชีวมวล ก๊าซชีวภาพ แสงอาทิตย์ ลม ขยะชุมชน ขยะอุตสาหกรรม เป็นต้น รวมถึงการรับซื้อไฟฟ้าโครงการพลังน้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน
  2. ทบทวนโครงการรับซื้อไฟฟ้า RE ที่มีการดำเนินการล้าช้ากว่าแผนฯ เพื่อปรับกำหนด SCOD ใหม่ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โรงไฟฟ้าชีวมวลประชารัฐ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน เป็นต้น
  3. รวมทั้งพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก RE ที่มีศักยภาพเหมาะสมร่วมกับเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้า เช่น Solar + ESS เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ร่วมกันดำเนินการทบทวนปรับปรุงแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้แผน PDP2018 rev.1 ในช่วงปีพ.ศ. 2564 – 2573 ตามมติ กพช. ให้สอดคล้องกับศักยภาพของพลังงานหมุนเวียน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ร่วมกับการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง ให้การสนับสนุนข้อมูลศักยภาพสายส่ง รวมถึงพิจารณาจัดทำแผนปรับปรุงระบบสายส่ง และจำหน่ายไฟฟ้า ให้สอดคล้องกับการทบทวนแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดที่จัดทำขึ้น และนำกลับมาเสนอ กบง. เพื่อพิจารณาต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน