กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – กรมการข้าวรับรองข้าวพันธุ์ใหม่ 4 สายพันธุ์ ทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียว ชูจุดเด่นคุณค่าสารอาหารดี ให้ผลผลิตสูง และทนทานต่อโรค
นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร อธิบดีกรมการข้าวกล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณารับรองพันธุ์ข้าวมีมติรับรองข้าวพันธุ์ใหม่ 4 พันธุ์ได้แก่ กข89 กข91 ขาหนี่117 และดำดาษ20
ทั้งนี้ ข้าวพันธุ์ กข89 เป็นผลงานการพัฒนาจากศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี มีลักษณะเด่นคือ เป็นข้าวขึ้นน้ำ มีศักยภาพยืดปล้องขึ้นน้ำได้ดี ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 450 กิโลกรัมต่อไร่ พื้นที่แนะนำในการปลูกคือ พื้นที่นาน้ำลึกมากกว่า 100 เซนติเมตร น้ำท่วมขังระยะเวลาตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป มีช่วงระยะเวลาการเก็บเกี่ยวปลายเดือนธันวาคม โดยเฉพาะเขตพื้นที่นาข้าวขึ้นน้ำในจังหวัดปราจีนบุรี นครนายก หรือสถานที่ที่มีนิเวศใกล้เคียงกัน
ส่วนพันธุ์กข91 จากศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี มีลักษณะเด่นคือ เป็นข้าวเจ้าขนาดเมล็ด
ปานกลาง ไม่ไวต่อช่วงแสง มีปริมาณอมิโลสต่ำเพียงร้อยละ 18.49 ต้านทานต่อโรคไหม้ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 763 กิโลกรัมต่อไร่ และมีศักยภาพการให้ผลผลิตในแปลงนาเกษตรกร 1,100 กิโลกรัมต่อไร่ เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาชลประทานในภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง
สำหรับข้าวพันธุ์ ขาหนี่117 เป็นข้าวนาที่สูง จากศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง มีลักษณะเด่นคือ เป็นพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตดี มีศักยภาพให้ผลผลิตสูงสุดถึง 783 กิโลกรัมต่อไร่ ในสภาพนาที่ความสูงระดับทะเลปานกลาง 700 – 1,000เมตร ค่อนข้างต้านทานต่อโรคไหม้ คุณภาพการสีดีมาก ไม่ตอบสนองต่อปุ๋ยไนโตรเจน เหมาะสำหรับสภาพการทำนาบนพื้นที่สูง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ที่สำคัญคือมีคุณค่าทางอาหารในปริมาณสูงกว่าข้าวทั่วไปจึงเหมาะเป็นแหล่งอาหารทางสุขภาพ ตลอดจนส่งเสริมให้จุลินทรีย์ในลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น
นอกจากนี้มีพันธุ์ข้าวเหนียวใหม่คือ ดำดาษ 20 จากศูนย์วิจัยข้าวนครศรีธรรมราช) มีลักษณะเด่นคือ เป็นข้าวเหนียว เยื่อหุ้มเมล็ดสีดำ คุณภาพการหุงต้มและรับประทานดี มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับการนำไปแปรรูปเป็นอาหารว่าง และแปรรูปเป็นขนมในงานประเพณีต่างๆ ให้ผลผลิตสูงเมื่อปลูกในสภาพไร่แซมยางพารา เฉลี่ย 407 กิโลกรัมต่อไร่ คุณภาพการสีดีมากให้เปอร์เซ็นต์ต้นข้าว 60.7 เปอร์เซ็นต์ และเหมาะสำหรับปลูกในสภาพไร่ ปลูกแซมยางพารา และปาล์มน้ำมันที่ปลูกใหม่ อายุ 1-3 ปีในจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียง.- สำนักข่าวไทย