จับพรานลักลอบล่าสัตว์ในป่าเขาแหลม

กาญจนบุรี 6 ก.ย. – เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมจับพรานป่า 3 คนที่ลักลอบเข้าฆ่าสัตว์ป่า ได้ของกลางเป็นอาวุธปืน 2 กระบอกและซากสัตว์จำนวนมาก


นายนิพนธ์  จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 ภาคกลาง (สปป.1) รวม 15 นาย เข้าปฏิบัติการลาดตระเวนเชิงคุณภาพเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายการป่าไม้พื้นที่ป่าบ้านทิพุเย หมู่ที่ 3 ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยระหว่างลาดตระเวนพบชาย 3 คนแบกอาวุธปืน 2 กระบอก พร้อมสัมภาระถุงปุ๋ย เดินออกมาจากป่า จึงแสดงตัว แล้วเข้าจับกุม 

ผู้กระทำผิดคือ นายลายคุโพ่ ไม่มีนามสกุล สัญชาติกระเหรี่ยง อายุ 24 ปี พักอาศัยอยู่บ้านทิพุเย ไม่มีบ้านเลขที่ หมู่ที่ 3 ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี นายสุวัฒน์  ทองผาสุทธิ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 9/7 หมู่ที่ 3 ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และนายสะจูโพ่ ไม่มีนามสกุล อายุ 27 ปี ไม่มีบ้านเลขที่ หมู่ที่ 3 ตำบลชะและ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 


ภายในถุงปุ๋ยมีซากสัตว์ป่าได้แก่ กระรอกดง 2 ตัว นกเงือก 2 ตัว เม่นหางพวง 2 ตัว ค่างชำแหละรมควันเป็นชิ้น 1 ซาก ลิงชำแหละเป็นชิ้น 1 ซาก ตะพาบน้ำ 1 ซาก และตะกวด 1 ซาก  พร้อมอุปกรณ์ล่าสัตว์คือ ปืน CZ 452 .22 LR พร้อมกล้องเล็งติดปืน 1 กระบอก กระสุนปืน 75 นัด และแม็กกาซีนปืน 1 ชุด ปืนไทยประดิษฐ์ .22 พร้อมกล้องเล็งติดปืน 1 กระบอก มีดปลายแหลม 3 เล่ม ไฟคาดหัว 4 ดวง ไฟฉาย 1 กระบอก หม้อสนาม 4 ใบ เปลนอน 3 หลัง ไฟแช็ค 4 อัน เตาแก๊สพร้อมแก๊สกระป๋อง 1 ชุด และเป้สะพายหลัง 1 ใบ

เจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562  มาตรา 12 ฐาน “ล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  มาตรา17 ฐาน “ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาต ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 19(3) ฐาน “ล่อหรือนำสัตว์ป่าออกไปหรือกระทำให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2497 พระราชบัญญัติอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7  ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ มีใช้ สั่ง หรือนำเข้าอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาติ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 2 พันบาทถึง 2 หมื่นบาท มาตรา 8 ทวิ ฐาน “ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากนั้นนำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี

บึ้มสนั่นโรงพัก! มือมืดซุกระเบิดใต้รถกระบะของตำรวจ

2 เหตุไม่สงบ จ.นราธิวาส คนร้ายซุกระเบิดรถเจ้าหน้าที่ก่อนจุดบึ้ม ขณะจอดที่ สภ.ศรีสาคร ส่วนที่ อ.ยี่งอ ไฟไหม้รถปลัดอำเภอ เร่งตรวจสอบเอี่ยวป่วนใต้หรือไม่

ระงับจ่ายไฟ

“ภูมิธรรม” สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันไม่ต้องเข้า ครม.

“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ