กทม.-ซีพี-ซีพีเอฟ-ส.ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจมอบข้าวกล่องครัวปันอิ่ม 2 ล้านกล่อง

กรุงเทพฯ 23 ส.ค.-กทม.-ซีพี-ซีพีเอฟ-ส.ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมส่งมอบข้าวกล่องครัวปันอิ่ม 2 ล้านกล่อง ช่วยชุมชนในกรุงเทพฝ่าวิกฤตโควิด-19 


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ฤทธิพันธ์ นันทศุภกร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตพระนคร ร่วมรับมอบข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมรับประทานและหน้ากากอนามัย จาก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และพันธมิตร สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ภายใต้โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19” เพื่อส่งมอบแก่ประชาชนในชุมชนต่างๆ ของพื้นที่กรุงเทพมหานคร ช่วยแบ่งเบาภาระและบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 โดยมี นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ และ นางสาวพิมพ์รภัส ศิริไพรวัน นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ร่วมส่งมอบ ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า กรุงเทพฯ เป็นพื้นที่สีแดงซึ่งมีผู้เดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นจำนวนมาก ไม่ใช่เพียงผู้ติดเชื้อที่ทำ Home Isolation อยู่ที่บ้าน แต่ยังมีคนตกงาน ผู้ขาดรายได้ และกลุ่มเปราะบาง ที่อาศัยอยู่ในชุมชนต่างๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณภาคเอกชนอย่างเครือซีพี-ซีพีเอฟที่นำโครงการครัวปันอิ่มมาแบ่งปันอาหารให้เข้าถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารแก่ประชาชนได้อย่างมาก รวมถึงร้านค้ารายย่อยให้มีรายได้ในช่วงนี้ด้วย 


นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่าการระบาดในระลอกที่ 3 ค่อนข้างรุนแรง เครือซีพีและซีพีเอฟ จึงดำเนินโครงการครัวปันอิ่ม พร้อมได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรหลายหน่วยงาน ในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ รวมถึง ศูนย์พักคอย รพ.สนาม รวมถึง สำนักงานเขตหลายแห่ง อาทิ เขตพระนคร หนองจอก มีนบุรี สวนหลวง บางกอกน้อย และ ประเวศ ที่ช่วยกระจายอาหารจากครัวปันอิ่มให้ถึงมือประชาชนในชุมชนต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้รับประทานอาหารอร่อย สะอาด ปรุงสุกใหม่ทุกเช้า เป็นกำลังใจและเติมกำลังกายให้ทุกคน 

นางกรรณิการ์ หยกเล็ก ประธานชุมชนราชบพิธพัฒนากล่าวขอบคุณ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างเครือซีพีและซีพีเอฟที่นำอาหารมามอบแก่คนในชุมชน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ทั้งตกงานและรายได้ลดลง โดยเฉพาะในระลอก 3 ที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ในชุมชนมีผู้กักตัว ตลอดจนกลุ่มเสี่ยงอยู่เป็นจำนวนมาก อาหารเหล่านี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าอาหารในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี 

อย่างไรก็ตาม โครงการ “ครัวปันอิ่ม ร้อยเรียงใจสู้ภัยโควิด-19” เป็นการผนึกกำลังเครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับพันธมิตรกว่า 100 องค์กร ส่งมอบข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมรับประทาน จำนวน 2 ล้านกล่อง ประกอบด้วย 1 ล้านกล่องแรกมาจากร้านอาหารรายย่อยในกทม. และปริมณฑล และอีก 1 ล้านกล่องมาจากซีพีเอฟ เป็นอาหารที่ปรุงใหม่ สุก สะอาด ถูกสุขอนามัย มีเมนูอาหารที่หลากหลาย โดยเครือข่ายจิตอาสา มูลนิธิ และหน่วยงานพันธมิตร จะรับอาหารไปกระจายสู่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ที่ขาดรายได้ ว่างงาน กลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่กักตัวดูอาการ และผู้ที่รักษาตัวที่บ้านหรือ Home Isolation ในชุมชนต่างๆ  ตลอดจนช่วยอุดหนุนธุรกิจร้านอาหารรายย่อยในกรุงเทพให้มีรายได้ในสถานการณ์นี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้