กรุงเทพฯ 16 ส.ค.- คลังจับมือ อว. ส่งเสริมนักศึกษาบริหารจัดการเงินอนาคต ทั้งการออม การลงทุน เพิ่มทรัพย์สินให้มีค่าสูงขึ้น
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเป็นสักขีพยานการจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ผ่านระบบประชุมทางไกล ระหว่าง กองทุนการออมแห่งชาติ(กอช.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีอธิการบดีและคณะผู้บริหารสถานศึกษา 174 แห่งทั่วประเทศ ร่วมรับฟังนโยบาย เพื่อมุ่งหวังให้เยาวชนรุ่นใหม่ ในกลุ่มนิสิต นักศึกษา รู้จักวางแผนทางการเงิน และการออมเงิน ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา ก่อนเริ่มต้นชีวิตการทำงาน สามารถวางแผนการลงทุน บริหารสินทรัพย์ ให้งอกเงยในรูปแบบที่เหมาะสมกับตัวเอง เท่าทันภัยทางการเงิน และยังแนะนำ ผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พึ่งตนเอง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตระหนักถึงการออมเพื่ออนาคต กอช. เป็นหน่วยงานส่งเสริมการออมเงิน การทำบัญชีครัวเรือน การบันทึกรายรับ-รายจ่าย ในครัวเรือน การจัดสรรรายได้ส่วนหนึ่งออมไว้ใช้จ่ายในยามฉุกเฉินและยามเกษียณเพื่ออนาคตของตนเอง
ท่ามกลางสถานการณ์ ไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคม การวางเป้าหมายทางการเงิน การลงทุนในรูปแบบการออมสะสม จึงเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางการเงินในอนาคต เพื่อปลูกฝังวินัย การออมและการวางแผนทางการเงินให้แก่นิสิต นักศึกษา
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กอช. ตั้งมาครบรอบ 6 ปี มุ่งดูแลแรงงานนอกระบบ ตั้งแต่วัยเรียนอายุ 15 ปี จนเริ่มวัยทำงานถึงอายุ 60 ปี เพื่อเตรียมพร้อมทางการเงินในอนาคต สมัครออมเงินเริ่มต้นเพียง 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี ได้เงินสมทบเพิ่มตามช่วงอายุของสมาชิก
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. เป็นกลไกหลักเชื่อมโยงและเคลื่อนย้ายเงินทุน จึงพร้อมส่งเสริมให้เยาวชน นิสิต นักศึกษา วางแผนการเงิน การออม การลงทุน เพื่อออมเงินกับ กอช. ต่อได้อย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย