กรุงเทพฯ 14 ส.ค.-รัฐมนตรีพาณิชย์ส่งทูตเกษตร-พาณิชย์ เจรจาหน่วยงานจีนหาทางออกแก้ไขปัญหาลำไยไทยส่งออกไปจีนด่วน หวังช่วยชาวสวนลำไยช่วงปริมาณออกมาก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าได้รับทราบกรณีทางการจีนห้ามนำเข้าลำไยไทยหลังตรวจสอบพบเพลี้ยแป้งในลำไย โดยจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.2564 เป็นต้นไปนั้นตนได้สั่งการให้ทูตเกษตรกับทูตพาณิชย์ไปเร่งเจรจากับทางการจีนเพื่อผ่อนปรนเป็นการด่วนแล้ว โดยทางกรมวิชาการเกษตรยืนยันว่าจะเข้าไปช่วยติดตามตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานที่จีนต้องการเพื่อไม่ให้การส่งออกลำไยถูกละงับ ได้รับแจ้งว่าสัปดาห์หน้าทางการจีนรับที่จะเจรจาพูดคุยอาจเป็นช่วงปลายสัปดาห์ จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาลำไยที่ลดลงในช่วงที่ปริมาณออกมามากด้วยนั้น ซึ่งในวันพรุ่งนี้นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะจะลงพื้นที่ภาคเหนือเพื่อเข้าไปช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง และขณะนี้ราคาตกลงมาบางส่วนโดยเฉพาะราคาลูกร่วงเกรดต่ำจะราคาตกมากสำหรับลำไยเกรดดีเกรดส่งออกและเกรดรองลงมาราคาแม้ไม่ดีเลิศแต่ยังพอไปได้ เช่นลำไยเกรดดีสุดกิโลกรัมละ 35-40 บาท เกรดรอง กิโลกรัมละ 30 บาท และที่ขายอยู่ในตลาดในประเทศกิโลกรัมละ 20-25 บาท ส่วนลูกร่วงเกรดดีกิโลกรัมละ 15-20 บาท แต่ถ้าเกรดคุณภาพต่ำกิโลกรัมละ 4-5 บาท ดังนั้น ปัญหาใหญ่ที่ 2 กระทรวงเกษตรฯกระทรวงพาณิชย์ต้องร่วมมือกับเกษตรกรช่วยแก้ปัญหารวมทั้งกระทรวงอื่น คือปัญหาแรงงานที่จะลงมาช่วยกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนเผ่า แต่ละชนเผ่าไม่ค่อยอยากลงมาเพราะสถานการณ์โควิดทำให้แรงงานเก็บลำไยติดปัญหา รวมทั้งเวียดนามติดปัญหาโควิดตอนนี้ผลผลิตออกเยอะและเจอโควิดทำให้การเปิดโรงอบลำไยจากไทยก็ติดขัดจึงเป็นปัญหาซ้ำซ้อน
“กระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการขณะนี้ให้การช่วยเหลือผู้ที่รวบรวมลำไยเพื่อการส่งในประเทศและการส่งออกกิโลกรัมละ 3 บาทและจัดกิจกรรมรณรงค์ให้คนไทยช่วยกันบริโภคลำไยหลังจากสถานการณ์มังคุดเพราะโควิดทำให้ติดขัดไปหมด จะรณรงค์ขายราคาพิเศษในร้านธงฟ้า รถเร่ ปั๊มน้ำมันซึ่งมีปั๊มบางจาก ปตท.และพีทีที่จะช่วยเป็นที่ระบายและมาตรการอื่นๆ” นายจุรินทร์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย