หอฯผนึก สสว. เชื่อมข้อมูล “SME Big Data”เพิ่มด้านแข่งขัน

กรุงเทพฯ 10 ส.ค. – สภาหอการค้าการไทยผนึก สสว. เชื่อมข้อมูล “SME Big Data”ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน SME ไทย เตรียมความพร้อมปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
 
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาผู้ประกอบการ SME และสนับสนุนให้ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโควิด–19 ที่ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยสภาหอการค้าฯ ได้เข้าพบกับผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ เพื่อหารือแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้งได้ร่วมมือกับธุรกิจค้าปลีกและธนาคารพาณิชย์ จัดทำโมเดลต้นแบบ (Sandbox) เชื่อมโยงข้อมูลคู่ค้า เพื่อให้ SME ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยมีธุรกิจขนาดเล็กผ่านการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินแล้วประมาณ 3,000 ราย พร้อมทั้งจะขยายผลไปยัง SME 5 แสนราย ภายในปี 2564



“แนวทางในการช่วยเหลือ SME นี้ ได้มีการหารือร่วมกับ นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาเป็นระยะ ซึ่งส่วนหนึ่งได้มีการมอบหมายให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ สสว. ร่วมกันผลักดันและเชื่อมโยงการขยายผลโมเดลดังกล่าว จนเกิดเป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลในระบบ SME Big Data ระหว่าง สสว. และ สภาหอการค้าฯ ทั้งสององค์กรจะได้ร่วมกันเชื่อมโยงข้อมูลของ SME และนำไปพัฒนา ตลอดจนจัดทำฐานข้อมูลภาคการพาณิชย์ การค้า การบริการ และการผลิต รวมถึงการพัฒนาระบบ Data Service เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของ SME ไทย

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า ผู้ประกอบการ SME ถือเป็นฐานรากที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมี SME เป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 99.54 ของวิสาหกิจทั้งประเทศ หรือมีจำนวนมากกว่า 3.1 ล้านราย มีการจ้างงานกว่า 12.7 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 71.70 ของการจ้างงานทั้งหมดของประเทศ มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่เกิดจาก SME ประมาณร้อยละ 34.2 ของ GDP ทั้งประเทศ ดังนั้น การส่งเสริม SME ให้เข้มแข็งจึงเป็นกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต


อย่างไรก็ตาม สสว.ในฐานะหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดทำข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้พัฒนาการจัดการข้อมูล SME Big Data เข้าสู่ปีที่ 4 โดยได้ดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลที่ใช้งานในปัจจุบัน วางแผนกลยุทธ์ทางด้าน Big Data Strategy ทำการวิเคราะห์ข้อมูลและมีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ Dashboard หรือ Data Visualization ต่าง ๆ เพื่อติดตามสถานการณ์การเติบโตของธุรกิจ ปัญหาอุปสรรค หรือความต้องการการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงการติดตามการได้รับการส่งเสริมในด้านต่าง ๆ จากหน่วยงานรัฐ และใช้ประโยชน์ในการคาดการณ์การเตือนภัยสถานการณ์ ซึ่งการลงนามความร่วมมือฯ ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ประกอบด้วย 1.เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศโดยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำข้อมูลมาพัฒนาจัดทำฐานข้อมูลภาคการพาณิชย์ การค้า การบริการ และการผลิต รวมทั้งการประมวลผลและนำเสนอข้อมูลในรูปแบบ Data Visualization ผ่านเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน 2. พัฒนาระบบบริการด้านข้อมูล หรือ Data service ร่วมกัน เพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ อาทิ ระบบประเมินสมรรถนะธุรกิจ (Benchmark) ระบบข้อมูลเตือนภัยทางธุรกิจ (Data warning) ข้อมูลพยากรณ์ภาวะเศรษฐกิจ (Data Prediction) และ 3.ร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้สามารถนำข้อมูลสารสนเทศไปใช้วางแผนในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้ง เตรียมความพร้อมในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ

นายกฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ สสว. ในฐานะภาคีที่ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินโครงการและแผนงานต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น การสนับสนุนให้ SME เข้าถึงสินเชื่อเพื่อการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจ ผ่านโครงการ SME ONE การเชื่อมโยงช่องทางการตลาดภายในประเทศ ผ่านโครงการ สสว.CONNEXT การจัดทำโครงการแผนงานให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 การพัฒนาช่องทางการตลาดให้กับ SME ในรูปแบบ Digital Transformation เป็นต้น

นอกจากนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ยังได้จัดทำ Application TCC CONNECT เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางให้เกิดการซื้อขายสินค้า หรือบริการ โรงแรม ที่พัก เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก COVID–19 พร้อมกันนี้ ยังได้มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ของ สสว. ผ่านเว็บไซต์ของหอการค้าไทย (www.thaichamber.org) เพื่อให้เครือข่ายและสมาชิกหอการค้าฯ ได้เข้าถึงอย่างสะดวกและรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ