fbpx

ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ก.ค. ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. -ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ระดับ 78.9 ถือว่าต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประจำเดือนกรกฎาคม 2564 และการยกระดับโรงพยาบาลสนาม ส.อ.ท. ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนกรกฎาคม อยู่ที่ระดับ 78.9 ลดลงจากเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาที่ระดับ 80.7 ถือว่าต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยมีปัจจัยลบมาจาก สถานการณ์ระบาดของโควิด 19 ที่ยังไม่คลี่คลาย ภาครัฐออกมาตรการล็อคดาวน์ในพื้นที่ 13 จังหวัด มาตรการเคอร์ฟิวช่วงเวลา 21.00-04.00 น.จำกัดการเดินทางในประเทศ ภาครัฐขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้พนักงานทำงานที่บ้านให้มากที่สุด มาตรการล็อคดาวน์ยังไม่สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้และยังส่งผลให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอี ประชาชนมีรายได้ลดลง การแพร่ระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งทำให้กำลังการผลิตลดลงเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน รวมทั้งแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยังได้รับวัคซีนในสัดส่วนที่น้อย อย่างไรก็ตามก็มีปัจจัยบวกจากภาคการส่งออกที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง จากคำสั่งซื้อและยอดขายต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เศรษฐกิจประเทศคู่ค้ามีทิศทางที่ดีขึ้นจากสัดส่วนประชากรที่ฉีดวัคซีนเพิ่มมากขึ้นทำให้อุปสงค์ในตลาดต่างประเทศขยายตัวและการอ่อนค่าลงของเงินบาทเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออก


สำหรับการคาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะการแพร่ระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งหากไม่สามารถควบคุมได้จะกระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออก มาตรการล็อคดาวน์จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ สถานการณ์โควิด19 ทั่วโลกยังไม่แน่นอนจากสายพันธุ์เดลต้าในหลายประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกรวมถึงการส่งออกของไทยในระยะต่อไป

ทั้งนี้มี 11 อุตสาหกรรมที่มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น คือ ยานยนต์ ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม เครื่องปรับอากาศและทำความเย็น ยา ปิโตรเคมี ผลิตภัณฑ์ยาง พลาสติก การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ อลูมิเนียม รวมทั้งผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์และสุขภาพซึ่งหากมองในภาพรวมจากขนาดอุตสาหกรรม จะพบว่า ดัชนีอุตสาหกรรมขนาดย่อม ขนาดกลางปรับตัวลดลง ขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และแนวโน้มในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ ดัชนีอุตสาหกรรมขนาดย่อม ขนาดกลางปรับตัวลดลง ขนาดใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และเมื่อจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นตามภูมิภาค ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ปรับตัวลดลงแต่ภาคตะวันออก ปรับตัวเพิ่มขึ้น และแนวโน้มในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยภาคตะวันออกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การอ่อนค่าลงของเงินบาทเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออก อุตสาหกรรมที่ขยายตัวดี เช่น เครื่องจักรกลและโลหะการ เครื่องปรับอากาศและทำความเย็น ปิโตรเคมี ขณะเดียวกันผู้ประกอบการมีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยหลักเรื่องราคาน้ำมัน สถานการณ์การเมืองในประเทศและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น


ทาง ส.อ.ท.มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ คือ การเร่งตรวจเชิงรุกในกลุ่มพื้นที่สีแดงเข้ม ขอให้ภาครัฐเร่งฉีดวัคซีนให้แก่แรงงาน ม.33 สนับสนุนให้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในสถานประกอบการ เสนอให้ภาครัฐนำระบบแจ้งเตือนผู้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในโทรศัพท์เคลื่อนที่มาใช้เพื่อช่วยป้องกันและติดตามการแพร่ระบาด ให้ภาครัฐดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและเร่งรัดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

สำหรับการยกระดับโรงพยาบาลสนาม ส.อ.ท.ได้ยกระดับโรงพยาบาลสนามในสมุทรสาครให้เป็นสีเหลืองเข้มเป็นแห่งแรก โดยสามารถรองรับผู้ป่วยสีเหลืองเข้มได้ 10 เตียง และผู้ป่วยสีเหลืองอ่อนได้ 190 เตียง พร้อมส่งเสริมการทำมาตรการ Bubble and Seal ในโรงงานซึ่งขณะนี้ได้ปรับเพิ่มเป็น 600 เตียงแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแจกเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจร 3 แสนเมล็ดให้สมาชิก ส.อ.ท.ร่วมปลูกในรั้วโรงงานเพื่อเตรียมความพร้อม ลดภาระ เพิ่มภูมิคุ้มกัน พร้อมจัดทำคู่มือแนะนำวิธีการปลูกฟ้าทะลายโจร คู่มือการทำ Home Isolation และ Community Isolation คู่มือการทำ Quarantine สำหรับโรงงานเมื่อมีผู้ป่วยโควิด 19 และคู่มือแนะนำ Antigen Test Kit รวมทั้งการจัดทำกล่องห่วงใยจากใจ ส.อ.ท.ที่มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับบริจาคบรรจุอยู่ในกล่องนี้ 22 ชนิดบริจาคไปตามโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆทั่วประเทศด้วย

นายสุพันธุ์ ยังระบุด้วยว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย หรือ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ  กกร.จะทำหนังสือขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีในเร็วๆนี้ เพื่อให้ช่วยปลดล็อคเรื่องวัคซีน และค่าใช้จ่ายในการรักษาพนักงานเพื่อให้รัฐช่วยเหลือและเยียวยาเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบในต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร