กรุงเทพฯ 9 ส.ค.-หอการค้าไทยระบุพิษโควิดหนัก ฉุดดัชนีเชื่อมั่น ModernTrade Q2/64 ทรุดแตะ 45.3 ต่ำสุดในรอบ 3 ปี และไตรมาส 3 ยังลงต่อเนื่อง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Modern Trade ประจำไตรมาสที่ 2/2564 พบว่า ดัชนีมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง3ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาสที่4/2563 และเป็นดัชนีที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยดัชนีปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 45.3 และมีความไม่เชื่อมั่นต่อดัชนีในอนาคตช่วงไตรมาสที่3 คาดว่าดัชนีจะปรับตัวลดลงอีก หลังจากผู้ประกอบการมีความไม่มั่นใจในเรื่องของการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19ในประเทศที่ยังคงไม่ลุล่วง การฉีดวัคซีนยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และมีการล็อกดาวน์พื้นที่เพิ่มเติม 29 จังหวัด ซึ่งเป็นจังหวัด เศรษฐกิจสำคัญ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78 ของ GDP ประเทศ หนี้ภาคครัวเรือนที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลทำให้การใช้จ่ายของภาคประชาชนให้ลดลง มีผลกับยอดขาย และลูกค้าในธุรกิจค้าปลีกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง และมีมูลค่าความเสียหายแล้วประมาณ 2.7 แสนล้านบาท ซึ่งการล็อกดาวน์ 29 จังหวัด ส่งผลกับเศรษฐกิจภาพรวมเสียหาย 400,000-500,000 ล้านบาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม ประกอบกับเสถียรภาพทางการเมืองเวลานี้มีผลกับความไม่มั่นใจของผู้บริโภคและการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง จะยิ่งส่งผลกระทบทำให้ เศรษฐกิจซึมตัวลงได้อีก โดยต้องจับตาสถานการณ์ในประเทศหลังจากนี้อย่างใกล้ชิด คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 จะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าทิศทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร นายสุรงค์ บูลกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการกลุ่มค้าปลีกและบริการ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่าธุรกิจค้าปลีกซึ่งถือเป็นตัวกำหนด GDP ประเทศ ต้องการได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกรายย่อย โดยต้องการเข้าถึงโครงการคนละครึ่งเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ การขยายเวลาการลดภาษีจนถึงปี 2565 เพื่อให้ภาคธุรกิจยังคงมีสภาพคล่องและรักษาการจ้างงานไว้ การดูแลในเรื่องของการสนับสนุนสาธารณูปโภคของนิติบุคคลเช่นเดียวกับการที่รัฐบาลช่วยเหลือ ประชาชนทั่วไป เพื่อลดต้นทุนรายจ่ายคงที่ของภาคธุรกิจทำให้มีสภาพคล่องมากขึ้น .-สำนักข่าวไทย