กรุงเทพฯ 6 ส.ค.- 4 หน่วยงาน ร่วมหารือยกระดับคุมเข้มโควิดในโรงงานฯ ตามมาตรการ “Bubble and Seal”
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้ประชุมร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในประเด็นแนวทางการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อกำหนดนโยบายของ กนอ.เกี่ยวกับการบริหารจัดการภาคอุตสาหกรรมในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และแนวปฏิบัติของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในการแบ่งกลุ่มพนักงานเป็นกลุ่มๆ เพื่อลดการสัมผัสระหว่างกัน หรือ Bubble And Seal และระบบดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ภายในโรงงาน (โรงพยาบาลสนามในโรงงาน) หรือ Factory Isolation โดยแบ่งกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำให้กักตัวในสถานประกอบการ เพื่อจำกัดวงของการระบาดของไวรัสโควิด-19 และทำให้การดำเนินงานในภาคการผลิตยังดำเนินต่อไปได้ตามปกติ
“การเฝ้าสังเกตอาการของผู้มีความเสี่ยงสูงและผู้มีความเสี่ยงต่ำนั้น กรมควบคุมโรคได้ให้ข้อเสนอแนะว่า ควรแยกจากกันอย่างชัดเจนเป็นคนละกลุ่ม และยังให้เขาทำงานได้ตามปกติ แต่ต้องเฝ้าสังเกตอาการใกล้ชิด ไม่ให้มีการข้ามกลุ่มกันไปมา ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องปิดโรงงาน ไม่เกิดการระบาดในชุมชน และพนักงานยังคงมีรายได้ เพื่อให้กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินต่อไปได้ เนื่องจากขณะนี้ต้องยอมรับว่า ภาคอุตสาหกรรมถือเป็นภาคส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศ ดังนั้น เราจะหามาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการให้ดำเนินงานได้อย่างดีที่สุด”นายวีริศ กล่าว
สำหรับมาตรการ Bubble and Seal จะต้องใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคเข้ามากำกับดูแล เช่น ต้องมีการประเมินความเสี่ยงทุกวัน ตรวจคัดกรองกลุ่มที่มีไข้ด้วยแอนติเจนท์ เทสต์ คิท กรณีมีแรงงานเข้ามาใหม่ต้องกักตัวอย่างน้อย 14 วัน ขณะเดียวกันต้องมีมาตรการดูแลด้านสังคมด้วย เช่น จัดเตรียมสถานที่พักในโรงงาน ชุมชน โรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับหากมีผู้ติดเชื้อ รวมทั้งสนับสนุนปัจจัย 4 ในการดำรงชีพ มีการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ มาตรการ Bubble and Seal ถูกใช้มาแล้วในโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง และสามารถจำกัดการระบาดของไวรัสได้ดีในจังหวัดสมุทรสาครในระลอกที่ 2 ดังนั้นจึงมองว่า หาก กนอ.นำไปประยุกต์ใช้กับโรงงานในนิคมฯ ต่างๆ ทั่วประเทศ น่าจะช่วยลดการแพร่ระบาดได้ ขณะเดียวกันรูปแบบที่ใช้ต้องเหมาะสมกับประเภทกิจการพื้นที่และแรงงานด้วย. – สำนักข่าวไทย