กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – การระบาดระลอกใหม่ของโควิด -19 กดดัน SET index ปรับตัวลดลง 4.1% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า เมื่อพิจารณาภาพรวม 7 เดือนแรกของปี 2564 ยังเติบโตกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ในภูมิภาค
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 SET Index ปิดที่ 1,521.92 จุด ลดลง 4.1% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า เมื่อพิจาณาช่วง 7 เดือนแรกปี 2564 SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 5.0% ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ในภูมิภาค โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2563 ได้แก่ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร กลุ่มเทคโนโลยีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง และกลุ่มบริการ
ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai เดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ 84,941 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยใน 7 เดือนแรกปี 2564 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,388 ล้านบาท
ขณะที่ ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยในเดือนกรกฎาคม 2564 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 17,741 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 7 เดือนแรกปี 2564 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิรวม 95,558 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนในประเทศมีสถานะเป็นผู้ซื้อสุทธิ 129,185 ล้านบาท นอกจากนี้ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ผู้ลงทุนในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ในเดือนกรกฎาคม 2564 มีบริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายใหม่ใน SET 3 บริษัท และ 1 ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของ mai 1 บริษัท โดยใน 7 เดือนแรกปี 2564 SET มีมูลค่าระดมทุน (IPO) สูงที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์อื่นๆ ใน ASEAN
ขณะที่ Forward และ Historical P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 18.0 เท่า และ 27.0 เท่าตามลำดับ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.3 เท่า และ 19.6 เท่าตามลำดับ และ อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2564 อยู่ที่ระดับ 2.55% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 2.35%
ขณะที่ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เดือนกรกฎาคม 2564 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 423,066 สัญญา ลดลง 34.2% จากเดือนก่อน และในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2564 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 542,283 สัญญา เพิ่มขึ้น 12.0% จากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures เป็นสำคัญ
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลท.อยู่ระหว่างการทบทวนมาตรการกำกับการซื้อขายด้วย Cash Balance และ Net settlement แม้ว่าที่ผ่านมาจะสามารถควบคุมความผันผวนของราคาหุ้นที่ถูกควบคุมจากมาตรการดังกล่าวได้ถึง 90% แต่ยังมีอีกราว 10% ที่แม้ใช้มาตรการในการควบคุมแล้วแต่ก็ยังมีความผันผวนค่อนข้างสูง ตลท.จึงกำลังพิจารณาว่าควรมีมาตรการอื่นที่จะมาช่วยควบคุมเพิ่มเติมหรือไม่ โดยจะมีการหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน
ส่วนทิศทางเงินทุนต่างประเทศจะไหลกลับเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่นั้น ยังคงต้องติดตามว่าในบ้านเราจะสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดีเพียงใด การกระจายวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การท่องเที่ยว เรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ แม้ตัวเลขการส่งออกจะเติบโตได้ดีต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี แต่ยังคงติดตามภาคการผลิตของโรงงานต่างๆด้วยว่า เป็นอย่างไรประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานหรือไม่ อย่างไรก็ดีหากควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด -19 ได้ เชื่อว่าเงินทุนต่างชาติก็จะไหลกลับเข้ามาเหมือนกับช่วงไตรมาส 4/2563 อย่างแน่นอน . – สำนักข่าวไทย