กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – รมช. มนัญญาสั่งกรมวิชาการเกษตรย้ำผู้ประกอบการป้องกันเชื้อโควิด-19 และศัตรูพืชปนเปื้อนไปกับผลไม้ที่ส่งออกไปจีน ตั้งแต่สวน โรงคัดบรรจุ จนถึงขั้นตอนขนส่ง เพื่อไม่ให้จีนระงับคำสั่งซื้อ
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรแจ้งเตือนผู้ส่งออกผลไม้ไปประเทศจีนให้เฝ้าระวังและปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันเชื้อโควิด-19 ติดปนเปื้อนไปกับสินค้าผลไม้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันจีนมีมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก โดยสินค้าผลไม้ที่ส่งออกจีนจะถูกตรวจกรดนิวคลิอิกเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ในสินค้า และตรวจหาเชื้อในคนขับรถสินค้า โดยเฉพาะที่ด่านโม่ฮานที่มีการตรวจสอบที่เข้มงวดมาก จึงขอให้ผู้นำเข้าหรือบริษัทที่เป็นตัวแทนประสานกับผู้ส่งออกของไทยให้ทำการฆ่าเชื้อตู้คอนเทนเนอร์ทั้งภายในและภายนอก รวมถึงห้องคนขับ และฆ่าเชื้อบรรจุภัณฑ์ก่อนขึ้นตู้ โดยหากตรวจพบเชื้อโควิด-19 สินค้าผลไม้ครั้งที่ 1 จะห้ามรถและสินค้าของบริษัทนั้นเข้าประเทศชั่วคราว 10-15 วันโดยอัตโนมัติ หากตรวจพบครั้งที่ 2 ห้ามรถสินค้าของบริษัทนั้นเข้าประเทศถาวรโดยอัตโนมัติ ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีการนำเข้าผลไม้ไทยที่ด่านโม่ฮานเฉลี่ยวันละประมาณ 100 ตู้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ภายในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชของกรมวิชาการเกษตรเข้าไปติดตามกำกับดูแลที่โรงคัดบรรจุเพื่อให้ปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวอย่างเคร่งครัดแล้ว เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลส่งออกผลไม้ทางภาคใต้ และในเดือนสิงหาคมนี้จะมีผลผลิตทั้งทุเรียนและมังคุดออกสู่ท้องตลาดจำนวนมาก ให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบใบรับรอง GAP และศัตรูพืช เพื่อออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้แก่ผู้ประกอบการส่งออก โดยกรมวิชาการเกษตรได้เพิ่มทั้งจำนวนบุคลากรและขยายระยะเวลาในการปฏิบัติงานจากเดิม 19.00 น.ไปจนถึง 22.00 น.เพื่อให้สามารถตรวจปิดตู้สินค้าให้กับผู้ประกอบการได้ทันโดยไม่มีสินค้าตกค้างในแต่ละวัน
นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผยว่า ได้แจ้งเตือนผู้ประกอบการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 และศัตรูพืชตามที่สำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC) ได้แจ้งเตือนปัญหาการตรวจพบเพลี้ยแป้งในลำไยจากไทยประมาณกลางเดือนกรกฎาคม รวม 114 ครั้ง ซึ่งเป็นสินค้าลำไยส่งออกไปจีนที่ออกใบรับรองสุขอนามัยพืชก่อนหน้านี้ โดยในจำนวนนี้มีสวนถูกแจ้งเตือน 100 แห่ง โรงคัดบรรจุถูกแจ้งเตือน 66 แห่ง แบ่งเป็นในพื้นที่ จ. จันทบุรี 28 แห่ง สระแก้ว 1 แห่ง เชียงใหม่ 11 แห่ง และลำพูน 26 แห่ง โดยจีนได้ขอให้กรมวิชาการเกษตรทำการระงับการส่งออกผลไม้ไปจีนที่ผลิตจากสวนและโรงคัดบรรจุที่เกี่ยวข้องเป็นการชั่วคราวด้วยตนเองก่อน พร้อมรายงานผลการตรวจสอบหาสาเหตุของปัญหาและแนวทางแก้ไขให้ GACC พิจารณาเห็นชอบจึงจะอนุญาตให้สวนและโรงคัดบรรจุดังกล่าวส่งออกผลไม้ไปสาธารณรัฐประชาชนจีนได้อีกครั้ง
ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรได้จัดประชุมหน่วยงานภายในกรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นและมาตรการป้องกันครอบคลุมตั้งแต่ที่สวน โรงคัดบรรจุ และด่านตรวจพืชเสนอให้ฝ่ายจีนพิจารณา ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้ประสานให้สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ขอนัดหมายการประชุมเจรจากับ GACC ด้วยระบบ Zoom เพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ ตามที่จีนแจ้งมาแล้ว. – สำนักข่าวไทย