“ศักดิ์สยาม” เปิดโครงการ นำส่งผู้ป่วยโควิด กลับภูมิลำเนา 6 จังหวัดอีสานตอนล่าง

กรุงเทพฯ 22 ก.ค.- กระทรวงคมนาคม เปิดโครงการ รับส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับไปรักษาตัวภูมิลำเนา 6 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง “บุรีรัมย์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ” ผ่านสายด่วน 1330


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง  ประชุมติดตามประชุมเตรียมการส่งผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา ในพื้นที่ 6 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (บุรีรัมย์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ) ด้วย Application “Zoom” โดยมีนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง ผู้บริหาร กรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ประกอบด้วย นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข  นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ , เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้ว่าราชการจังหวัด 6 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง (บุรีรัมย์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ )เข้าร่วม



การประชุมดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบแนวทางการมอบหมายให้ รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงฯ รับผิดชอบการจัดการนำผู้ป่วย Covid-19 ที่มี ความประสงค์จะกลับไปพักรักษาตัวในจังหวัดภูมิลำเนา ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุขเป็นแกนกลางหลักในการประสานกับผู้ป่วย และรัฐมนตรีฯ ช่วยในการประสานใช้ทรัพยากรในการลำเลียง จัดส่ง และประสานจังหวัดภูมิลำเนาปลายทาง สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับผิดชอบจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ   จะประสานระหว่างผู้ป่วยกับหน่วยงานของรัฐในการจัดส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ผ่านสายด่วน 1330

โดยกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้หน่วยงานด้านคมนาคมที่ดูแลด้านการขนส่งคน ดำเนินการรับส่งคนป่วยกลับภูมิลำเนาตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข ทั้งมาตรการเว้นระยะห่างภายในรถ การทำความสะอาด รวมทั้งการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มให้กับผู้ป่วยระหว่างเดินทาง   ขณะเดียวกันขอให้ทั้ง 6 จังหวัดดำเนินการวางแผนการรองรับผู้ป่วยกลับบ้าน พร้อมคาดการณ์ถึงสถานการณ์ในอนาคตเพื่อดำเนินการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า กรณีที่จังหวัด หรือหน่วยงานใด ต้องการการสนับสนุนหรือขอความอนุเคราะห์จากกระทรวงคมนาคม สามารถติดต่อสื่อสารผ่านกลุ่มไลน์เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ทันต่อสถานการณ์ หากมีผู้ประสงค์จะขอรับบริการ “จัดส่งผู้ป่วย COVID-19 กลับไปรักษาที่บ้านเกิด” สามารถโทรประสานงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง


สำหรับคณะกรรมการอำนวยการศูนย์บริหารจัดการเพื่อนำผู้ป่วย COVID-19 ส่งรักษาอาการในจังหวัดภูมิลำเนา 6 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างนั้น จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ล่าสุด ความพร้อมของ 6 จังหวัดในการรองผู้ป่วยโควิด-19 กลับภูมิลำเนา ได้จัดตั้ง Community Isolation (CI) โครงการที่จังหวัดดำเนินการ มีปริมาณจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยของทั้ง 6 จังหวัด ขณะนี้มีจำนวน 5,876 เตียง และสามารถรองรับผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนาพร้อมเดินทางแต่ละจังหวัด ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 64 กลับไปรักษาที่จังหวัดบ้านเกิด รวม 6 จังหวัด 4,464 เตียง

โดยหมายเลขโทรศัพท์ ในการประสานส่งผู้ป่วยโควิด-19 มีดังนี้ ฮอตไลน์ สปสช. โทร 1330 กด 15  จ.ศรีสะเกษ เบอร์ สายด่วน 1422 และ สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษเบอร์ 065-240-0680 และ 065 -240-0691 จ.อำนาจเจริญ เบอร์ 090-241-0098 093-323 -4686 086-651-5424 095-192-4903 จ.สุรินทร์ เบอร์ 044-513-999 (เฉพาะเวลาราชการ) และ 092-599-5108 (ตลอด 24 ชั่วโมง) จ.ยโสธร เบอร์ 090-240-9930 จ.อุบลราชธานี เบอร์ 082-648-9270 096-693-2139 096-937-1783 จ.บุรีรัมย์ เบอร์ 025-765-5555  -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

เชียงรายพบสารหนูเกินมาตรฐานใน “น้ำกก” คาดจากเหมืองเมียนมา

สำนักงานสิ่งแวดล้อมฯ เชียงราย ได้รับร้องเรียนว่า “น้ำกก” มีสีขุ่น เมื่อนำไปตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐานหลายเท่า กระทบสุขภาพประชาชน คาดมาจากเหมืองแร่ทองคำในเมียนมา ผู้ว่าฯ เชียงราย เรียกประชุมด่วน

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม