การรถไฟฯ ชี้แจงการประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่ 2 สายใหม่

กรุงเทพฯ 18 ก.ค.- ปัญหาการประมูลก่อสร้างรถไฟทางคู่สาย เด่นชัย –เชียงรายรวมถึงรถไฟทางคู่ช่วงนครพนม-มุกดาหาร-บ้านไผ่ ที่ถูกวิจารณ์ นำไปเปรียบเทียบโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ในอดีต การรถไฟแห่งประเทศไทยจึงมีคำชี้แจงโครงการดังกล่าว 


การก่อสร้างระบบทางรถไฟเพื่อการขนส่งและโดยสาร เป็นที่รับทราบถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นนานัปการ ต่อระบบโครงข่ายโลจิสติกของประเทศ โดยเฉพาะโครงการรถไฟทางคู่ และการเปิดเส้นทางรถไฟสายใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ รายงานของธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า รถไฟทางคู่นั้นจะช่วยลดเวลาการขนส่งถึง 30% 

โครงข่ายรถไฟครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น จะเอื้อให้การรวบรวมสินค้าเกษตร เคลื่อนย้ายต่อไปยังท่าเรือทำได้สะดวก ก่อประโยชน์การกระจายสินค้าและส่งออก ขณะที่ภาคการโดยสารก่อประโยชน์ เปิดพื้นที่เศรษฐกิจและพื้นที่ท่องเที่ยวใหม่ เป็นที่มาซึ่งประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการท่องเที่ยว ต่างรอคอยโครงการด้วยความหวัง 


สำหรับโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ วงเงินกว่า 85,300 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 7 ปี การรถไฟแห่งประเทศไทยในฐานะเจ้าของโครงการ ยืนยันดำเนินการตามตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561 ระเบียบประกวดราคาจ้างก่อสร้าง ด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุภาครัฐ แบ่งสัญญาการก่อสร้างออกเป็น 3 สัญญาวงเงินรวม 3 สัญญา 72,921 ล้านบาท เป็นราคาตั้งแต่ปี 2561 แม้ในปี 2564 ราคาก่อสร้างได้พุ่งสูงขึ้นมาก โดยการรถไฟคำนึงถึงประโยชน์ของภาครัฐและประเทศเป็นสำคัญ โดยหากพิจารณาราคาเหล็กในวันที่ยื่นเสนอราคาพบว่าราคาเหล็กเพิ่มสูงขึ้นจากปี 2563 ประมาณ 40% ซึ่งจะทำให้ราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้น 950 ล้าน, 1,080 ล้าน และ 670 ล้านบาท ในสัญญาที่ 1, 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งราคากลางเป็นที่ยอมรับของภาครัฐ และดำเนินการตามระเบียบทุกขั้นตอน

นอกจากนี้ ขั้นตอนการจัดทำ TOR ก็ถูกต้องตามกฎระเบียบ มีบุคคลภายนอกเข้าร่วมสังเกตการณ์ ติดตาม และตรวจสอบ TOR ได้ลงเผยแพร่ทางเว็บไซต์ เปิดโอกาสให้มีการรับฟังคำวิจารณ์ ปรับปรุง จำนวน 5 ครั้ง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมตรวจสอบได้ รวมทั้งมีการเผยแพร่ประกาศและเอกสารประกวดราคาตามระเบียบทุกประการ

พร้อมยืนยันว่าการรถไฟได้ดำเนินการประกวดราคาโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยวิธีประกวดราคาแบบ e-Bidding ตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ซึ่งถือว่าเป็นระเบียบข้อบังคับที่มีความโปร่งใสมากที่สุดในปัจจุบัน 


นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้เอกชนทุกราย สามารถเข้าประมูลแข่งขันได้ สำหรับเส้นทางสายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ซึ่งมีงานอุโมงค์อยู่ด้วยทุกสัญญา ซึ่งถือเป็นงานเฉพาะทาง ต้องกำหนดผลงานของผู้ยื่นข้อเสนอตามระเบียบของกรมบัญชีกลาง ที่ผู้เสนอราคาต้องเคยมีผลงานประเภทเดียวกันกับงานจ้างก่อสร้างนี้ แต่เพื่อเป็นการเปิดกว้างให้ได้กำหนดให้ผู้ยื่นข้อเสนอดังกล่าว สามารถเข้าร่วมงานกันได้


ในลักษณะกิจการร่วมค้า ตามหนังสือแจ้งของกรมบัญชีกลางโดยการรถไฟฯ ย้ำว่า หากพบหลักฐานการสมยอมการเสนอราคาในการประมูลครั้งนี้ สามารถแจ้งการรถไฟ เพื่อดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องได้ ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากมีการประมูลใหม่ หากประกวดราคาใหม่ต้องปรับราคากลางให้เป็นราคาปัจจุบัน ซึ่งตามข้อเท็จจริงราคาเหล็กในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้น 40% จะส่งผลให้ราคากลางใหม่ จะสูงขึ้นเกินกว่ากรอบวงเงินที่ได้รับจาก ครม. ต้องเริ่มกระบวนการอนุมัติปรับกรอบวงเงินใหม่ ทำให้ภาครัฐได้รับความเสียหาย ส่วนในภาพรวมการพัฒนาประเทศ ทำให้สูญเสียโอกาสการพัฒนาด้านคมนาคม ท่องเที่ยว เศรษฐกิจการค้าชายแดน จากเส้นทางรถไฟสายใหม่ที่จะเชื่อมโยงการค้าระเบียงเศรษฐกิจ แนวเหนือ-ใต้ ไปด้วย.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แจ้งข้อหาอดีตทหารพรานทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 14 ก.ค. – ตำรวจตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายกับอดีตทหารพรานต่อยทหารกัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธม ขณะที่ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง พ.ต.อ.นพดล พินิจอักษร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก เปิดเผยความคืบหน้าอดีตทหารพรานและนักท่องเที่ยวทำร้ายทหารกัมพูชา ว่า ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานดำเนินคดี เบื้องต้นตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ในส่วนผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาพบพนักงานสอบสวน ยังไม่ได้หลบหนีไปไหน สามารถเรียกตัวมาแจ้งข้อหาได้ ขณะที่ปราสาทตาเมือนธม มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่พบทหารคนที่โดนชกแต่อย่างใด ขณะที่ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ยืนยันไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง หลังนักท่องเที่ยวไทยทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศทำหนังสือประท้วง ปมวัดภูม่านฟ้า มองแอบแฝงการเมือง ย้ำมรดกทางวัฒนธรรมควรเสริมสร้างความสัมพันธ์ใม่ใช่แบ่งแยก.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” วัดกัลยาณมิตรฯ สึกที่ระยอง

ระยอง 14 ก.ค. – เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ พัวพันสีกากอล์ฟ สึกแล้วที่ จ.ระยอง ขณะที่พระบางรูปยืนยันไม่สึก เพราะแม้เป็นข่าวแต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ส่วนเงินที่โอนเป็นเงินส่วนตัว ให้เพราะเมตตา ภาพล่าสุดของพระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มีข่าวว่าหายตัวนานหลายวัน เพราะมีคนเปิดเผยหลักฐานความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 61 และก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ สึกไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ แต่เมื่อเช้านี้ (14 ก.ค.) ภาพนี้ได้ยืนยันว่า พระปริยัติธาดา ได้สึกแล้วที่วัดในพื้นที่ จ.ระยอง เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา “พระภาวนาวิริยคุณ” ลั่นไม่สึก ให้ด้วยความเมตตาขณะที่พระที่ยังไม่สึกอย่าง พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระอาจารย์ไสว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ มีชื่อพัวพันโอนเงินให้สีกากอล์ฟ 182,200 บาท แต่ท่านได้ย้ายมาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 62 โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านโซเชียล ท่านเปิดใจกับทีมข่าวยืนยันว่าเรื่องราวเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ เกิดขึ้นเมื่อปี 66 โดยฝ่ายหญิงติดต่อมาทางแชท ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิต […]

“ภูมิธรรม” ลั่นเอาผิดถึงที่สุดคดีสีกากอล์ฟ เรื่องนี้ไม่จบง่าย

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ประสานดีเอสไอช่วยตำรวจสอบสวนกลาง ทำคดีสีกากอล์ฟ ลั่นเรื่องนี้ไม่จบง่าย เอาผิดถึงที่สุด เพราะมีลักษณะบ่อนทำลาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินคดีเอาผิดสีกากอล์ฟ และพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ว่า จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปช่วยดู เพราะคดีนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของประชาชน กระทบความมั่นคงในแง่ของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักของประเทศ โดยเมื่อเช้านี้ตนได้พูดคุยกับอธิบดีดีเอสไอ ให้ช่วยเข้าไปดู หรือมีอะไรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีดีเอสไอก็รับเรื่องไปพิจารณาดำเนินการ และยังได้คุยโทรศัพท์กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างติดราชการต่างประเทศ โดยตนได้กำชับว่าเรื่องนี้ต้องจริงจัง ต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหาสีกากอล์ฟให้ชัดเจนมากขึ้น และให้ประสานงานกับทางดีเอสไอ ซึ่ง พลตำรวจโท จินภพ ยินดี เพราะเป็นเรื่องที่ต้องการทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทบกับพุทธศาสนา และให้รายงานตนด้วย โดยเรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านเฉยๆ และย้ำว่าได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ การที่ให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดูคดี ไม่ได้หมายความว่าให้โอนคดีไปที่ดีเอสไอ แต่ให้มาช่วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดู โดยหลักการจะให้ตำรวจสอบสวนกลางทำคดีต่อไป ส่วนดีเอสไอมีอะไรเสริมได้ก็จะดี เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาคดีที่เกี่ยวกับสงฆ์ […]

ตร.ไซเบอร์หอบสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” มอบอัยการสูงสุด

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์หอบสำนวน 50 หน้า ส่งมอบให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ผิดม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขณะที่โฆษกอัยการรับต้องละเอียดรอบคอบ เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งฟ้องผู้นำประเทศมาก่อน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงฮุนเซน ประมาณ 50 หน้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานอัยการสูงสุด จากกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชี เฟซบุ๊กชื่อ “Samdech Hun Sen of Cambodia” ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอน […]